FOLLOW US ON SOCIAL

MISORA Sushi Bar & Bistro ร้านอาหารญี่ปุ่น สไตล์ฟิวชั่น ที่มีความหมายดีๆ ว่า ท้องฟ้าอันสวยงาม

MISORA แปลว่าท้องฟ้าอันสวยงาม ดังนั้นโลโก้ของร้านนี้ถึงเป็นรูปนกที่กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ร้าน Misora Sushi Bar & Bistro แห่งนี้เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจของผู้ชายสองคน ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก มีความชื่นชอบในเรื่องของอาหารญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าถึงแม้เรียนจบแล้วไปทำงานที่กรุงเทพ ก็ยังพากันไปตามหาร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ ดังๆ ทานกันอยู่เป็นประจำ จนวันหนึ่งมีความคิดที่อยากจะมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นของตนเองบ้าง อยากให้คนเชียงใหม่ได้ทานอาหารญี่ปุ่นที่รสชาติออกแนวพรีเมียม และวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพทัดเทียมกับร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ และดังๆ ในกรุงเทพ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของ Misora Sushi Bar & Bistro แห่งนี้

ชื่อร้าน : MISORA Sushi Bar & Bistro
ที่อยู่ : โครงการ Think Park ถนนนิมมานเหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.801069,98.967600
ติดต่อ : 085-4936245 , https://www.facebook.com/misorasushibar
เวลาเปิดปิด : 11:30 น. – 14:00 น. และ 17:00 น. – 22:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/191942Se-misora-sushi-bar-bistro

หากใครที่อยากตามหาร้าน MISORA Sushi Bar & Bistro แห่งนี้ น้าอ้วนขอใบ้ง่ายๆ เลยว่าร้านนี้เขาตั้งอยู่ในโครงการ Think Park สี่แยกรินคำ อยู่ติดกับร้าน Local Cafe ของพี่โน้ส อุดม ร้านที่มีแมวตัวใหญ่ๆ ห้อยกระเป๋าอยู่หน้าร้านนั้นแหละ เดินมาด้านหลังนิดหนึ่ง ก็จะเจอร้าน Misora แล้วหละ เห็นมะ หาง่ายป่ะ? แต่ร้านนี้เขาเปิดอยู่ 2 ช่วงนะจ๊ะ คือมื้อเที่ยง ก็ตั้งแต่ 11:00 – 14:00 น. และปิดสักครู่ และเปิดอีกทีสำหรับมื้อเย็นตั้งแต่ 17:00 – 22:00 น. หากใครไปในช่วงที่เขาปิด อย่าหาว่าน้าอ้วนไม่เตือนนะจ๊ะ สำหรับใครที่เอารถยนต์มา ก็จอดได้ที่ลานจอดรถของโครงการ (บริเวณโรงแรมอมารี รินคำเก่า) แล้วเอาบัตรจอดรถมาประทับตราที่ร้าน แค่นี้ก็ไม่ต้องเสียค่าจอดแล้วจ้าาา

DSC_7962

บรรยากาศร้านแบบง่ายๆ สบายๆ เมื่อชื่อร้านแปลว่าท้องฟ้าที่สวยงาม บนฟ้าก็ต้องมีนกบินอยู่ใช่ไหม? ดังนั้นเมื่อแหงนหน้าขึ้นด้านบน ก็จะเห็นนกบินอยู่เป็นฝูงเลยจ้าาาา สำหรับใครที่อยากต้องการความเป็นส่วนตัว เขาก็มีโต๊ะแบบให้นั่งกันเป็นกลุ่มทานกันอย่างสบายชิลๆ แต่สำหรับใครที่อยากได้ความสนุกสนาน สบตากับคนฝั่งตรงข้าม เขาก็มีโต๊ะใหญ่ที่อยู่กลางร้าน ให้นั่งกันด้วยนะจ๊ะ ใหญ่มากกกกก แต่รู้สึกว่าไม่ใครมานั่งเลย ๕๕๕๕ ดังนั้นน้าอ้วนก็เลยขอยึดพื้นที่นี้สำหรับถ่ายรูปเลยแล้วกันนะจ๊ะ

DSC_7956DSC_7967

ไม่ว่าจะเป็นเมนู a la carte ที่ราคาย่อมเยาก็มีให้เลือก หรือใครอยากทานปลาดิบเซ็ทเล็กๆ ที่สนนราคากันหลักร้อย หรืออยากทานปลาดิบที่เรียกว่าครบครันด้วยวัตถุดิบชั้นยอด ราคาเป็นพันเขาก็มีให้เลือกนะจ๊ะ ข้าวปั้น ซูชิต่างๆ หรืออาหารญี่ปุ่นที่หาทานได้ยากในเชียงใหม่ แต่มีเสิร์ฟกันในร้านใหญ่ๆ ที่กรุงเทพ ที่นี่เขาก็มีให้สั่งเหมือนกันจ้า อยากทานอะไร ลองเลือกสั่งกันตามอัธยาศัยเลย

DSC_8054 DSC_8055 DSC_8056 DSC_8057 DSC_8058 DSC_8059 DSC_8063 DSC_8064 DSC_8066

เรามาเริ่มต้นกันเลย สำหรับใครที่เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเมนูหนึ่งที่เรียกว่าคงต้องสั่ง เพราะถ้ามาถึงร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วไม่ทานปลาดิบ ก็คงเหมือนไม่ถึง ปลาดิบที่น้าอ้วนจะเอามารีวิวในวันนี้เป็นปลาดิบเซ็ท B นะจ๊ะ (เซ็ทกลาง โดยจะมีเซ็ทเล็ก และเซ็ทใหญ่อีก) แค่เซ็ทกลางแค่นี้น้าอ้วนก็เรียกว่าเพียบพร้อมแล้วหละ เพราะเขามีทั้งแซลมอน, ฮามาจิ, ทูน่า, หมึกยักษ์, หอยปีกนก และกุ้งอามะ เรียกว่าแค่เซ็ทนี้ก็เรียกน้ำลายได้แล้วแหละ

DSC_7989 DSC_8052

หรือสำหรับใครที่ชอบทานซูชิ ที่นี่ก็มีซูชิแบบทั้งธรรมดาบ้านๆ และแบบพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น ซูชิหน้าตับห่าน, ซูชิเนื้อวากิว, ซูชิปลาฮามาจิและทูน่า, ซูชิหน้าแซลมอนสามอย่าง (แซลมอนชีส, แซลมอนไซเกียว และแซลมอนอารูบิ) และซูชิหน้าครีบปลาตาเดียว ซึ่งเรียกได้ว่าแต่ละตัวนี่เกรดพรีเมียมสุดๆ เรียกได้ว่าพอหมดแล้วก็อยากสั่งอีก ๕๕๕๕๕

DSC_8008DSC_8021DSC_8036DSC_8025 DSC_8031DSC_8017

ซูชิอีกแบบหนึ่งที่น้าอ้วนว่าหลายคนคงถูกใจก็คงจะต้องยกให้ซูชิโรล ที่นี่ตัวเด่นๆ ที่อยากจะมาแนะนำในวันนี้น่าจะเป็นตัว Lava Roll ซึ่งจะเป็นซูชิที่ห่อไส้กุ้งเท็มปุระ และด้านนอกเป็นปลาทูน่า ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้านและท๊อปด้วยแป้งเท็มปุระกรอบๆ หรือจะเป็น Hotate Roll บอกได้เลยว่าเมนูนี้สุดคุ้มจริงๆ หอยเชลล์สดๆ ตัวใหญ่ๆ ที่เอามาม้วนทำเป็น Sushi Roll หอยเชลล์เนื้อนุ่มและสดมาก ด้านในก็แอบมีปลาไหลย่างแทรกด้วยนะจ๊ะ ใครได้ทานแล้วจะต้องติดใจ

DSC_8046 DSC_8000

ในส่วนของพวกอาหารทานเล่น ง่ายๆ ตามสไตล์สุดชิลของ Misora เขาก็มีหอยแมลงภู่สามรสมาแนะนำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ๆ ที่ราดมาด้วยซอสสามสไตล์ รสชาติจะแตกต่างกันไปคนละสไตล์ และที่สำคัญมีคาร์เวียท๊อปปิ้งด้วยนะจ๊ะ แหม… แลดูไฮโซขึ้นมาทันใน

DSC_7980 DSC_7986

หรือจะเป็นเมนูที่น้าอ้วนต้องยกให้ว่าทานเปล่าๆ ก็ได้หรือจะแกล้มกับเครื่องดื่มก็ดีอย่าง ยำปลาฮามาจิแบบญี่ปุ่น ปลาฮามาจิที่สดและมีรสชาติเค็มนิดๆ เชฟก็จะซอยต้นหอมและหัวไชเท้าวางไว้ด้านบน เสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ลักษณะออกคล้ายๆ ปอนสึ แต่ไม่ใช่เลยทีเดียว เวลาทานก็เอาเนื้อปลาฮามาจิ จิ้มกับน้ำจิ้ม รสชาติจะรู้สึกเค็มๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ น่าจะถูกใจคอนักดื่มไม่มากก็น้อย

DSC_7971 DSC_7978

จบไปแล้วกับอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ แต่ไม่ได้มือใหม่เลย จากรสชาติและวัตถุดิบที่เรียกได้ว่ากล้าเอามาขายในเชียงใหม่ เพื่อให้คนเชียงใหม่ได้ลองลิ้มรสชาติอาหารญี่ปุ่นในระดับพรีเมียม วัตถุดิบที่ดีๆ ทัดเทียมคุณภาพกับร้านอาหารญี่ปุ่นบนห้างหรือในเมืองหลวงได้อย่างสบาย แต่ราคาอาจจะสูงไปนิดถ้าเทียบกับร้านทั่วไป แต่น้าอ้วนว่านะถ้าใครที่เป็นคออาหารญี่ปุ่นจริงๆ หรือใครที่อยากลองว่าวัตถุดิบแบบสดๆ ดีๆ และจริงจังเขาเป็นยังไง แนะนำที่นี่เลย ที่MISORA Sushi Bar & Bistro ร้านอาหารญี่ปุ่น สไตล์ฟิวชั่น แวะมาลองสักครั้งแล้วจะรู้ว่าศาสตร์แห่งอาหารญี่ปุ่นนั้นเขาสุดยอดขนาดไหน

RELATED POSTS

COMMENT

0 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save