จะกิน จะพัก จะเที่ยว ที่เดียวครบ ร้านอาหารบรรยากาศธรรมชาติที่ออกจากตัวเมืองเพียง 15 กิโล – ANNA FARM & EATERY

สมัยนี้คำว่า SLOW LIFE เป็นอะไรที่หลายคนใฝ่ฝันหา ๕๕๕ หลายคนเลือกไปใช้ชีวิตแบบชิลล์ๆ ในอำเภอรอบนอกที่มีธรรมชาติที่สวยงาม พักผ่อนท่ามกลางความสวยงามของโลกนี้ คนเชียงใหม่อย่างเราถือว่าโชคดีกว่าคนกรุง เพราะเราเดินทางออกไปต่างอำเภอนิดเดียวเราก็สามารถสัมผัสกับธรรมชาติสวยๆ ได้ง่ายๆ ยิ่งตอนนี้กระแสพวกนาขั้นบันไดกำลังมาแรง หลายคนมุ่งหน้าไปยังอำเภอจอมทองเพื่อไปดูความสวยงามของนาข้าว แต่ใครจะรู้ว่าไม่ต้องขับรถไปไกลถึงเกือบ 100 กิโลเมตร เพื่อไปจอมทองก็ได้ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีมุ่งหน้าไปทางแม่ริม ก็สามารถสัมผัสกับธรรมชาติที่ร่มรื่นไม่แพ้กัน วันนี้น้าอ้วนมีร้านอาหาร และโรงแรมที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ ทุ่งนา ที่สวยงามอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเลย แค่ 30 นาทีเราก็มาถึงแล้ว “โรงแรมแรมริมนา แม่ริม เชียงใหม่”

ชื่อร้าน : ANNA FARM & EATERY / RAMRIMNA
ที่อยู่ : 60 หมู่ที่ 12 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.8925942,98.916449
ติดต่อ : 081-0338181 , 091-8588686 , 086-0008877 , https://www.facebook.com/Anna-Farm-Eatery-310306589139681
เวลาเปิด–ปิด : 08:00 – 22:00 น.​ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/211374HB-anna-farm-eatery

ธรรมชาติสวยๆ คงไม่ได้อยู่ข้างถนนที่เราจะสามารถแบบว่าเลี้ยวจากทางหลวงปุ๊บ จอดรถแล้วจะเจอเลย ธรรมชาติที่แท้จริงเราจะต้องเดินทางเข้าไปหามัน บางครั้งอาจจะลำบากนิดหนึ่ง แต่เชื่อว่าเมื่อได้มาสัมผัสแล้วรับรองหายเหนื่อยเป็นปริดทิ้ง ANNA FARM & EATERY หรือ RAMRIMNA Luxury Private Pool Villas & Organic Farm ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม ถ้าเราเดินทางมาจากตัวเมือง ก็ใช้เส้นทางแม่ริม ขับไปเรื่อยๆ ก่อนถึงแยกน้ำตกแม่สา จะมีซอยด้านซ้ายมือ ทางที่จะเข้าไปแม่ริมพลาซ่า หรือวัดป่าดาราภิรมย์นั่นเอง ให้เราเลี้ยวซ้ายไป ขับไปได้สักพักก่อนจะถึงโรงแรม Four Seasons Resort จะมีซอยอยู่ด้านซ้ายมือ (ทางไปศาลากาแฟนั่นแหละ) ให้ขับตามทางไปเรื่อยๆ พอเจอวัดป่าอัมพวันก็ให้เลี้ยวซ้ายขับตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าโรงแรม RAMRIMNA นั่นเอง ขับรถเข้าไปเลยจ้า มีที่จอดรถมากมาย

ตอนที่ขับรถเข้ามาก็จะเริ่มเห็นวิวทิวทัศน์ด้านในลิบๆ แล้ว แต่พอถ้าได้จอดรถ แล้วเดินเข้ามาด้านในจริงๆ จะรู้สึกและทึ่งในความสวยงามของธรรมชาติแถวนี้ยิ่งขึ้น ระหว่างที่รออะไรหลายๆ อย่าง น้าอ้วนก็ได้เดินเที่ยวชมรอบๆ โรงแรม แอบไปถ่ายรูปพวกห้องพักต่างๆ ที่อย่างชื่อเขาบอกว่าที่นี่เป็น Luxury Private Pool Villas ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัว น้าอ้วนก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปบรรยากาศของโรงแรมทุกซอก ทุกมุมมาอวดแฟนๆ ทั้งในส่วนของบ้านพัก สระน้ำ ห้องอาหาร และบรรยากาศโดยรอบ ลองไปดูกันเลยจ้า

มาถึงกันร้อนๆ ก็แวะดื่มน้ำ ดื่มท่ากันซะหน่อย ด้วยน้ำผลไม้ปั่น ทั้งแบบที่มีแอลกอลฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ ได้ทานรสชาติสดๆ กันแบบนี้รับรองว่าสดชื่นมากๆ

เมนูแรกที่เราจะมาชิมกันวันนี้ ขอเรียกน้ำย่อยด้วยเมนูเริ่มต้นเบาๆ ที่ทางโรงแรมภูมิใจนำเสนอมาก ด้วยผลผลิตจากริมธารนี่เอง เมี่ยงดาหลา ดอกดาหลาที่ขึ้นข้างริมธาร ดอกสวยๆ หลายคนคงไม่รู้ว่าดอกนี่กินได้นะจ๊ะ และถือว่าเมนูนี้เป็น Signature ของที่นี่เองด้วย นำดอกดาหลามาซอยบางๆ คลุกเคล้าให้เข้ากับเครื่องเมี่ยง รสชาติเผ็ด หวานอมเปรี้ยว และมีความซ่าในตัวของดอกดาหลา ทานคู่กับชะพู พริกสด ขิงหั่น ถั่ว เรียกว่าเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ดีเลยทีเดียว

อีกเมนูทานเล่นระหว่างรอจานหลัก เห็ดชุบแป้งทอด เมนูอาจจะเห็นว่าธรรมดา แต่บอกเลยว่าทานแล้วเพลิน เห็ดสดๆ เอามาชุบแป้งทอดไม่หนามาก ทอดจนแป้งด้านนอกกรอบแต่เห็ดด้านในสุกได้กำลังพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มต่างๆ รับประกันว่าทานกันจนเพลิน

แกงกะหรี่เนื้อแกะกล้วยหอม พอได้ยินครั้งแรกตกใจ เฮ้ย!! ตั้งแต่เป็นน้าอ้วนชวนหิวมา เพิ่งเคยเห็นแกงกะหรี่อะไรใส่กล้วยหอมด้วย ตอนแรกก็หวั่นๆ ว่ารสชาติมันจะออกมายังไง พอได้ชิมแล้วรู้สึกว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่าง ฉ่ำนิดๆ มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อว่ากล้วยหอมจะสามารถเอามาทำอาหารแบบนี้ได้ด้วย ถ้ามาแล้วอย่าพลาดที่จะลองนะจ๊ะ อเมซิ่งมาก ๕๕๕๕

สำรับอาหารไทยถ้าขาดน้ำพริกไป ก็คงรู้สึกว่าไม่ครบองค์ประชุม น้ำพริกปลาบ้านนา คำแรกที่ได้เอาเข้าปากรู้สึกถึงเนื้อปลาข้นๆ และสมุนไพรที่เขาเอาไปย่างไฟให้เกิดความหอม ปรุงรสให้ออกเผ็ดหน่อยๆ ตามด้วยเค็ม และเปรี้ยวตาม เสิร์ฟพร้อมกับผักสดนานาชนิด ซึ่งบอกเลยว่าที่นี่เขามีฟาร์มผักเป็นของตัวเองนะจ๊ะ แหมเรียกได้ว่าที่นี่แทบจะไม่ต้องไปหาซื้ออะไรที่ไหนเพิ่มเติมที่ไหนเลยปลูกเอง เก็บเอง เอามาบริการให้ลูกค้า ปลอดภัยหายห่วง

แกงคั่วเนื้อปู แกงคั่วแบบไทยภาคกลางที่ได้กลิ่นหอมของกะทิลอยมาเป็นอันดับแรก น้ำแกงที่ข้นๆ รู้เลยว่าใช้หัวกะทิในการเคี่ยวกับพริกแกงจนได้น้ำแกงที่ข้นขลัก พร้อมผักตัวเด่นอย่างใบชะพู และพระเอกที่ขาดไม่ได้ก็คือเนื้อปู แต่ไม่ได้เป็นเนื้อปูก้อนนะจ๊ะ เขาใช้เป็นเนื้อปูฉีก ผสมอยู่ในน้ำแกงบอกเลยว่ามันแน่นมาก ใครที่ชอบทานอะไรแบบว่าจัดเต็ม และยิ่งถ้าชอบทานเนื้อปูด้วยหละก็ ชามนี้แหละฟินเวอร์

มัสมั่นเนื้อน่องลาย ฮู้วววววว แค่ได้ยินคำว่าเนื้อน่องลาย น้าอ้วนก็น้ำลายสอแล้ว เพราะน้าอ้วนเป็นคนชอบทานเนื้ออยู่แล้ว เนื้อน่องลายจะเป็นส่วนที่มีเอ็นแทรก ดังนั้นเวลาที่เรากัดเข้าไปมันจะรู้สึกกรุบกรับในตัว และรู้เลยเมื่อเอาเนื้อน่องลายของเมนูจานนี้เข้าปาก สัมผัสได้ถึงความที่พ่อครัวเอาเนื้อไปตุ๋นจนได้ที่ นุ่มมากรวมไปถึงรสชาติของเครื่องแกงมัสมั่นที่ซึมเข้าถึงเนื้อทำให้มีรสสัมผัสอยู่ในตัวเนื้อ ใครที่ชอบทานเนื้อเหมือนน้าอ้วน สั่งจานนี้มาแล้วข้าวไรซ์เบอรี่ร้อนๆ สักจาน รับประกันเลยว่าฟินมากๆ

ถ้าใครจะนั่งทานบริเวณในส่วนของร้านอาหาร อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน แต่ขอกระซิบว่าถ้าช่วงเย็นๆ สัก 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ถ้าอยากโรแมนติก อยากชิลล์ หรืออยากฟินกับบรรยากาศที่ดวงอาทิตย์ลับขอบดอยไปแล้ว น้าอ้วนแนะนำระเบียงนาข้าว โซนนี้จะรองรับลูกค้าได้เพียง 3 โต๊ะเท่านั้นนะจ๊ะ บอกก่อนว่ามาก่อน ได้ก่อน ๕๕๕๕ รับประกันว่าถ้าพาคนรู้ใจมานั่งรับประทานมื้อเย็น โซนนี้รับรองจะต้องมีความสุขกลับไปกันอย่างแน่นอน

จุดเด่นของ ANNA FARM & EATERY และ RAMRIMNA RESORT (น้าอ้วนขอเรียกสั้นๆ แบบนี้แล้วกัน) ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของธรรมชาติที่แท้จริง ที่สามารถเดินทางออกจากตัวเมืองเพียง 30 นาที หรือราวๆ 15 กิโลเมตรเท่านั้น ด้วยพื้นที่ของโรงแรมกว่า 70 ไร่ ทำให้ที่นี่มีทั้งในส่วนของที่พัก ในส่วนของทุ่งนาที่ปลูกข้าวไว้ใช้เองที่โรงแรม รวมไปถึงแปลงปลูกพืชผักออแกนิกที่ลูกค้าสามารถไปเยี่ยมชมและติดไม้ติดมือเป็นของฝากได้ด้วยนะ ๕๕๕๕๕ ถ้าสังเกตในส่วนของตัวอาคารจะเห็นว่ามีความสวยงามภูมิฐาน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมชั้นเลิศ​ แปลกตา เพราะคนที่ออกแบบที่นี่เป็นสถาปนิกชื่อดังของเมืองไทยด้วยนะจ๊ะ รับรองว่าที่นี่เป็นทั้งสถานที่พักแรม ท่องเที่ยว และแวะกินได้อย่างครบวงจร

Share on Facebook

Tweet

Follow us