ร้านกาแฟบ้านสีเหลือง กับต้นมะม่วงที่ร่มรื่น ที่ Yellow Mango
หลายคนอาจจะสงสัยว่าบ้านหลังสีเหลืองใหญ่ๆ และมีต้นมะม่วงป่าต้นใหญ่อยู่หน้าบ้าน ที่อยู่ตรงซอยวัดร่ำเปิงนั่นคืออะไร หลายคนก็คงเห็นละว่าป้ายเขาเขียนว่า YELLOW MANGO ร้านนี้เชื่อเลยว่าต้องสะดุดตาใครหลายๆ คนและบางคนก็เคยมาแล้ว แต่บางคนก็ไม่เคยมาใช่ไหมหละ? ก็คงเกิดความสงสัยว่าร้านนี้เขาเป็นยังไง มีอะไรให้กินบ้าง? บรรยากาศด้านในจะเป็นยังไง เพราะว่าสักวันหนึ่งก็คงต้องแวะมาใช่ไหม? ตอบ! วันนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม มาดูรีวิวของน้าอ้วนกันว่าร้านนี้เขาเป็นยังไง เพื่อที่ว่าจะได้เตรียมตัวไปเยือนที่ Yellow Mango แห่งนี้ได้อย่างเต็มที่
ชื่อร้าน : ร้านกาแฟบ้านสีเหลือง กับต้นมะม่วงที่ร่มรื่น ที่ Yellow Mango
ที่อยู่ :
พิกัด GPS : 18.776509,98.949500 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 088 268 6923 , https://www.facebook.com/YellowMango.Chiangmai
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/161491AB-yellow-mango
การเดินทางมาร้านนี่เรียกว่าค่อนข้างลึกลับซับซ้อนพอสมควร สำหรับคนที่ไม่เชี่ยวชาญถนนแถวนี้ ถ้าจะเอาเส้นทางที่ง่ายที่สุดที่น้าอ้วนจะบอกได้ก็คงหนีไม่พ้นเส้นคันคลองชลประทานครับ ให้เข้าซอยสิบสองปันนาขันโตก แล้วให้มุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ไปทางวัดร่ำเปิงนะครับ ร้านจะอยู่ก่อนถึงวัดร่ำเปิงประมาณ 300 เมตร (ถ้าใครเห็นวัดอยู่ซ้ายมือก็แสดงว่าเลยไปแล้วครับ) ร้านจะเป็นบ้านหลังใหญ่สีเหลือง และจะมีต้นมะม่วงอยู่หน้าบ้าน ป้ายเห็นชัดเจนครับว่า Yellow Mango
พอจอดรถอะไรกันเสร็จเดินเข้ามาในร้านก็จะสัมผัสถึงความร่มรื่นของต้นมะม่วงป่าขนาดใหญ่ ที่อยู่ในสวนกลางบ้าน บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นทีเดียวครับ และตัวร้านก็จะเป็นบ้านหลังใหญ่สีเหลือง ที่ตกแต่งออกแนววินเทจนิดๆ ด้านในก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้นั่งนุ่มๆ อยู่พอสมควร เหมาะสำหรับทั้งมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือหมู่คณะ ก็ยินดีต้อนรับเสมอ
เมื่อก่อนที่นี่เขาจะมีแค่เครื่องดื่มและขนมไว้บริการ แต่กระแสเรียกร้องจากลูกค้าหลายคนที่อยากให้ที่นี่มีอาหารด้วย ทางร้านก็เลยเอาใจลูกค้าซะหน่อยเลยจัดเมนูอาหารแบบง่ายๆ จานเดียวไว้บริการ ด้วยบรรยากาศชิลๆ ร่มรื่นแบบนี้ใครหละอยากมาแค่ดื่มกาแฟ กับขนมใช่มะ อย่างน้อยถ้ามีอาหารด้วยก็จะช่วยอิ่มท้องด้วยไปในตัว
เริ่มต้นด้วยอาหารวันนี้ อย่างที่บอกครับว่าเป็นอาหารง่ายๆ สั่งปุ๊บรอแป๊บหนึ่งก็ได้ทานกันละ แต่วันนี้เมนูค่อนข้างแปลก ขอเริ่มจากกระเพราปูอัด ปกติเราอาจจะคุ้นกับกระเพราหมู, ไก่, หมึก หรือทะเล แต่ร้านนี้ทำเก๋เอาปูอัดมาทำกระเพรา รสชาติจะออกไปทางหวานนิดๆ เพราะด้วยคุณสมบัติรสชาติของปูอัดเขาจะออกฉ่ำๆ น้ำและหวานๆ แต่เมื่อเอามาผัดกับเครื่องแกงแล้วน้าอ้วนว่ามันก็ได้รสชาติไปอีกแบบหนึ่งนะ
หรือแม้แต่จะเป็นราดหน้าไก่สับน้ำแดง ราหน้าธรรมดาที่นี่ทำไม่เป็น (ล้อเล่น อิอิ) ก็เลยขอทำสูตรออกแนวจีนๆ ซะหน่อย ในจานนี้ก็จะประกอบด้วยเส้นใหญ่ก๋วยเตี๋ยว มีมะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เนื้อไก่ และเห็ด รสชาติก็เหมือนราดหน้าทั่วไปครับ แต่จะเพิ่มในส่วนของเครื่องให้หลากหลายขึ้นเท่านั้น
ในส่วนของเครื่องดื่มที่นี่ก็มีหลากหลายพอสมควรเลยแหละ อย่างเช่นถ้าเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่เย็นแก้วนี้ รสชาติจะออกกลางๆ ไม่หวานมาก ได้กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟ หรือจะเป็นอิตาเลียนโซดามะม่วง บอกเลยว่าแก้วนี้น้าอ้วนโอเคที่สุด เพราะรสชาติหวานๆ ซ่าๆ ของโซดา พร้อมทั้งเนื้อมะม่วงที่ใส่มาในแก้ว ถ้าได้ชิมมะม่วงแล้วจะติดใจมากเพราะมันหวานแหละหอมดีจริงๆ หรือใครอยากดื่มอะไรแบบเย็นๆ เป็นเกล็ดหิมะ กีวี่สมูทตี้ แก้วนี้ก็คงเป็นอีกคำตอบหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ
เราปลีกตัวมาทางขนมบ้างครับ เริ่มต้นด้วยอัลโฟกาโต้ หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นหูว่ามันคืออะไร มันคือไอศครีมชนิดหนึ่งครับ ที่เขาจะเสิร์พร้อมกับเอสเปรสโซ่ช็อต เวลาทานก็ให้เอาเอสเปรสโซ่ช็อต ซึ่งเป็นกาแฟแบบเข้มข้น ราดไปบนไอศครีม (จะใช้รสอะไรก็ได้ แต่ส่วนมากจะนิยมเป็นวนิลา เพราะจะมีความหอมและรสชาติหวานๆ) ซึ่งจะได้รสชาติความขมของกาแฟ เวลาทานก็จะตักมาพร้อมกันความหวานและความขม ก็จะตัดกันได้อย่างลงตัว ส่วนเครื่องเคียงก็แล้วแต่ร้านว่าจะเสิร์ฟอะไรเพิ่มเติม อย่างที่นี่ก็จะมีบราวนี่และวิปปิ้งครีมเสิร์ฟมาให้ด้วยนะจ๊ะ
อีกเมนูหนึ่งที่ร้านกาแฟหลายๆ ร้านจะต้องมี ก็คือฮันนี่โทส ขนมปังก้อนใหญ่ทาเนยแล้วเอาไปอบให้เนยมันซึมเข้าเนื้อขนมปัง เพิ่มความชุ่มฉ่ำเวลาเสิร์ฟก็มาพร้อมกับน้ำผึ้งหอมหวาน และไอศครีมสกู๊ปใหญ่ๆ สักสกู๊ปหนึ่งโปะบนขนมปัง เวลาทานก็เอาน้ำผึ้งราดนะครับ ใช้มีดหั่น ส้อมจิ้ม จับใส่ปาก ตามด้วยคอนเฟร็กและวิปปิ้งครีม บอกเลยว่าฮันนี่โทสที่นี่ถ้าสั่งมาแล้วจะฟิน ห้ามพลาดนะจ๊ะ อิอิ
เป็นอีกร้านกาแฟหนึ่งที่ร่มรื่นและแปลกตาดีครับ จุดเด่นก็คงเป็นร้านที่สีสันนี่แบบว่าจี๊ดจ๊าดมาก เป็นจุดเด่นที่สุดของแถวนี้เลย ถ้าใครบอกว่าเป็นร้านบ้านสีเหลืองๆ ใกล้วัดร่ำเปิง ก็คงไม่ต้องถามมากแล้วหละ ถ้าจะถือว่าเป็น Landmark ก็ได้เลยนะ อีกอย่างหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นเรื่องต้นมะม่วงป่าต้นใหญ่ที่อยู่กลางสวนหน้าบ้าน ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมอาณาบริเวณทั่วร้านทำให้มีความร่มรื่นและเย็นสบาย สำหรับฤดูฝนที่ทำให้ต้นไม้ดูชุ่มฉ่ำและฤดูหนาวที่บรรยากาศมันหวนให้นึกถึงความโรแมนติก ร้านนี้น่าจะเป็นอีกร้านหนึ่งที่หลายๆ คนจะต้องมาฟินแน่นอน
COMMENT