Posted On
หลากหลายสไตล์ กับวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ในบรรยากาศที่เข้าถึงสบาย กรุ่นกลิ่นความสดใหม่จาก The Ping Cuisine & Bar
วันนี้น้าจะพาไปหาอะไรอร่อย ๆ กินในโรงแรมกันซะหน่อย ถ้าน้าจะบอกว่าวันนี้เราจะพาไปเที่ยวโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท หลายคนก็อาจจะงงว่าคือที่ไหน แต่ถ้าบอกว่าโรงแรมเลอ เมอริเดียน เก่าย่านไนท์บาร์ซ่าไง หลายคนก็คงจะพอร้องอ๋อมาบ้าง เพราะที่นี่เพิ่งจะ Rebranding ไปเมื่อไม่นาน สด ๆ ร้อน ๆ นี่เอง ดังนั้นเรียกได้ว่าน้าจะพาไปสัมผัสความสดใหม่ ของความเป็นแมริออท โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่มีความสะดวกสะบาย สวยงาม หลายคนอาจจะเกร็ง ไม่กล้าเข้ามาใช้บริการ แต่ต้องบอกว่าห้องอาหารของโรงแรมนั้นเปิดให้บริการลูกค้าภายนอกด้วย ที่นี่จึงเข้าถึงง่าย และให้บริการอย่างเป็นกันเองมากกว่าที่คิด ถ้าไม่เชื่อ …. ตามมา!
Chiang Mai Marriott Hotel (โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท) แบรนด์ระดับตำนานที่มีชื่อเสียงทั่วโลกที่มาปักธงเปิดให้บริการที่เชียงใหม่เป็นครั้งแรก โรงแรมสูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านธุรกิจอย่างไนท์บาร์ซาร์ ถ้าใครเคยแวะเวียนมาเมื่อครั้งยังเป็นชื่อเก่า ลองแวะมาใหม่จะบอกว่าเขาได้รีโนเวทปรับเปลี่ยนสไตล์ ให้ดูสวยงามสะดุดตามาก โดยเฉพาะในส่วนของ Lobby ที่เดินเข้ามาแล้ว หยิบมือถือมาถ่ายรูปบอกเลยแค่โหมด Auto ก็ได้รูปสวย ๆ กลับบ้านไปโดยไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะทางทีมออกแบบใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องแสงไฟสุด ๆ ถ่ายปุ๊บแสงพอดีเป๊ะ
สำหรับห้องอาหารที่น้าจะพาไปแวะชม แวะชิมในวันนี้ เป็นหนึ่งในห้องอาหารจากหลาย ๆ ห้องฯ ของทางโรงแรม สำหรับห้องนี้ชื่อ The Ping Cuisine and Bar ถือว่าเป็น Main Restaurant ของทางโรงแรมก็ว่าได้ เพราะที่นี่จะเป็นจุดที่ให้บริการในส่วนของอาหารเช้า ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 06:00 น. ไปจนถึง 11:00 น. และหลังจากนั้นจะเปิดให้บริการเป็นเมนูอะลาคาร์ท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 11:00 น. ยาว ๆ ไปจนถึง 23:00 น. โดยธีมของอาหารที่นี่จะเป็นสไตล์นานาชาติ มีทั้งไทย, อาหารเหนือ, เวสเทิร์น รวมไปถึงของหวาน โดยมีเชฟถึง 4 ท่านที่จะมาบรรจง รังสรรค์เมนูต่าง ๆ ที่เสิร์ฟความอร่อยให้กับลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการ
อย่างที่น้าบอกว่าที่นี่จะให้บริการอาหารในแบบนานาชาติ มีครบทั้งไทยและเทศ รวมไปถึงของหวานสุดพิเศษ โดยน้าขอเริ่มจากเมนูแรก ข้าวซอยเชียงใหม่ พริกเครื่องแกงสูตรเด็ดที่คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะจากเชฟของโรงแรง และได้นำพืชผักจากสวนออร์แกนิกในท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบ จุดเด่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเนื้อไก่ ที่ทางเชฟได้เอาน่องไก่ไปทำการซูวีด์ (Sous Vide) ซึ่งเป็นการทำให้เนื้อไก่ค่อย ๆ สุกโดยใช้ความร้อน เพื่อให้เนื้อไก่ยังคงความชุ่มฉ่ำและนุ่มอร่อยไม่แข็งกระด้าง
แกงฮังเลหมู โดยการเตรียมเนื้อหมูสามชั้นเอาไปหมักกับเครื่องเทศเป็นเวลา 1 คืน เพื่อให้กลิ่นและรสชาติซึมซาบเข้าเนื้อหมูได้อย่างกลมกล่อม หลังจากนั้นนำมาตุ๋นกับเครื่องพริกสไตล์โฮมเมดสูตรเด็ดของเชฟ ตุ๋นและเคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อย นุ่ม เนื้อแดงสุกกำลังดี หนังหมูนุ่มเด้ง กลิ่นหอมเครื่องแกง และเนื้อสัมผัสนุ่มอร่อย
เนื้อย่างจิ้มแจ่ว เนื้อส่วนท้องล่างหมักกับเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะของเชฟธเนศ (Executive Chef) ซึ่งจะได้ทั้งเรื่องของรสชาติและความนุ่ม หลังจากนั้นนำมาย่างไฟให้สุกกำลังดี ตอนเสิร์ฟเชฟจะมีการรมควันเนื้อด้วย เมื่อพนักงานมาถึงโต๊ะแล้วก็จะทำการเผิดฝาครอบ กลิ่นของควันที่อบมาหอมฟุ้ง ซึมเข้าเนื้อหอมกรุ่นเต็มปาก
แกงคั่วเนื้อปู เนื้อปูคัดพิเศษจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำมาเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมผสานกับเครื่องแกงคั่วที่ทำจากวัตถุดิบและเครื่องเทศพื้นถิ่นจากทางภาคใต้ จนได้นำแกงที่มีรสชาติเผ็ดร้อน กินคู่กับขนมจีนหรือเส้นบะหมี่ลวก และไข่ยางมะตูม แนมด้วยผักสดต่าง ๆ บอกเลยว่าหรอยจั่งฮู้
ซี่โครงแกะย่างและเห็ดป่าผัดเนยซอสสมุนไพร เนื้อแกะนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ นำมาหมักด้วยเกลือและพริกไทย เพื่อดึงเอารสชาติอร่อยที่เป็นแบบเฉพาะตัวของเนื้อแกะออกมา เอาไปย่างไฟให้สุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับเห็ดผัดเนยและซอสชิมิซูรี
แซนด์วิชเนื้อย่างและพริกจาลาเปโน บรีชีส ขนมปัง Sourdough โฮมเมดของทางโรงแรม ท็อปด้วยเนื้อส่วนท้องล่าง เห็ดแชมปิญอง ผักร็อคเก็ต พริกจาลาเปโน และบรีชีสที่ให้ความเข้มข้น เข้ากันลงตัวกับซอสบัลซามิก และตัดเลี่ยนด้วยผักดองต่าง ๆ ที่เสิร์ฟมาคู่กัน
หมดของคาวไปแล้ว เรามาดูของหวานกันบ้าง ที่นี่มีของหวานทั้งสไตล์แบบไทย ๆ และแบบเทศ เริ่มจากของหวานแบบไทยที่หลายคนคงคุ้นเคยกันดีอย่าง ข้าวเหนียวปิ้งและมะม่วงสุก เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมงาขี้ม่อน จากข้าวเหนียวมูนธรรมดา ๆ เปลี่ยนและเพิ่มความพิเศษด้วยการเอาข้าวเหนียวมูนกะทิไปห่อด้วยใบตองแล้วย่างไฟอ่อน ๆ เพื่อให้ข้าวเหนียวมีความนิ่มและหอมหวาน กินคู่กับไอศกรีมรสวานิลลาที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยงาขี้ม่อนและคุกกี้ช็อคโกแลต และที่ขาดไม่ได้มะม่วงสุกที่มีรสชาติหอมหวาน สรุปแล้วเป็นองค์ประกอบที่แปลกใหม่ แต่เข้ากันได้อย่างลงตัว
เค้กดาร์คช็อกโกแลตพรีเมียม 64% ที่อยู่บนบิสกิตไร้แป้ง เสิร์ฟพร้อมกับไข่มุกเหล้าโกโก้ และโฟมวานิลลาจากดอยตุง
เห็นเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หลายคนก็อาจจะต้องอู้หู … มันต้องแพงแน่ ๆ คำว่าอาหารที่ดีมันจะมีหลายองค์ประกอบเช่น ถูกปากคนกิน วัตถุดิบดี และราคาที่สมเหตุสมผลที่จ่ายได้ นั่นแหละคืออาหารที่ดีและอร่อย ดังนั้นถ้าอยากมาลองหาอาหารดี ๆ สักมื้อ ลองแวะมาที่ห้องอาหาร The Ping Cuisine and Bar บริเวณชั้น 1 ของโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท ดูสิ … แล้วจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าประทับใจกลับไป
ชื่อร้าน: The Ping Cuisine and Bar at Chiang Mai Marriott Hotel
ที่อยู่: 108 ถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS: 18.784465, 98.999754
ติดต่อ: 053-253666 , Facebook: ChiangmaiMarriott
เวลาเปิด-ปิด: บุฟเฟต์อาหารเช้า 06:30 น. – 11:00 น. และ A La Carte 11:00 น. – 23:00 น.
Wongnai Review: https://www.wongnai.com/restaurants/2592999ou
RELATED POSTS
-
ไม่ต้องไปแกรนด์แคนยอนถึงเมืองนอก ก็มาชิลล์กับบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ เวิ้งน้ำสีฟ้าครามที่ Blue Paradise at Grand Canyon
-
สวรรค์แห่งการพักผ่อน ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ เสียงน้ำตก ลมพัดเย็น ที่ The ForRest แม่กำปอง
-
หลีกหนีความวุ่นวาย กับร้านนั่งชิลล์บรรยากาศสบาย ผ่อนคลายยามเหนื่อยล้า ที่ Loft Cafe Solution
-
สุข สนุก ผ่อนคลาย ร้านอาหารบรรยากาศชิลๆ กลางทะเลกับ Maldives เชียงใหม่
-
Tokyo Yakiniku ปิ้งย่างแท้ๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น
-
อาหารโฮมเมด รสชาติถูกปาก Cafe de Parc แลนด์มาร์กที่ต้องเช็คอิน
-
ถึงพริกถึงขิง กับอาหารไทยสี่ภาค รสชาติไม่เกรงใจฝรั่ง รับประกันถูกปากคนไทยที่ ร้านอาหารกังสดาล เชียงใหม่
COMMENT