ขนกันมาให้เพียบทั้งกุ้งมังกร ปูอลาสก้า หอยนางรมฝรั่งเศส กินกันไม่อั้นไม่จำกัดเวลาเพียง 1,988 บาทที่โรงแรม แชงกรี-ลา เชียงใหม่
ถ้าพูดถึงกุ้งมังกร (Lobster) คงเป็นเมนูที่ใครหลายคนไฝ่ฝันถึงว่าอยากจะลิ้มลองสักครั้ง แต่ถ้ามาเจอราคาก็คงต้องคิดหนัก เพราะกุ้งมังกรตัวหนึ่งราคาก็หลายร้อย ไปจนถึงหลักพัน แต่ต้องบอกเลยว่าถ้าใครได้ลองชิมแล้วรับประกันต้องติดใจ เพราะเนื้อมันอร่อยและฟินมาก น้าอ้วนเคยคิดว่าถ้าได้กินกุ้งมังกรแบบว่าไม่จำกัด คงจะฟินมาก (และคงกระเป๋าฉีกมาก ๕๕๕) แต่วันนี้ต้องบอกเลยว่าที่โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ เขามีโปรโมชั่นเด็ด กินกุ้งมังกรไม่อั้น และอีกหลากหลายเมนูทะเลพิเศษที่ต้องบอกว่าถ้าใครเห็นแล้วจะต้องทึ่งแน่นอน
Lobster and Seafood Extravaganza โปรโมชั่นเด็ดสำหรับใครที่รักในอาหารทะเล กุ้งมังกร (Canadian Lobster) กินกันแบบไม่อั้น นอกจากนั้นยังมี Alaskan King Crab (ปูอลาสก้า), Fine de claire Oyster (หอยนางรมฝรั่งเศส), Australian Black Angus Beef (เนื้อวัวแองกัสจากออสเตรเลีย), Fresh Sashimi (ซาซิมิสดๆ) รวมไปถึงกุ้ง หอย ปู ปลาต่างๆ ที่พากันเสิร์ฟกันไม่อั้น ในราคาเพียง 1,988 บาท สุทธิต่อท่าน สำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 12 ขวบ คิดราคาเพียงครึ่งเดียว แต่ถ้าต่ำกว่า 6 ขวบกินฟรีด้วยนะ
ปกติแล้ว Lobster and Seafood Extravaganza เขาจะมีเฉพาะมื้อเย็นวันศุกร์เท่านั้น แต่สำหรับในวันที่ 13 – 15 เมษายน 2561 เขาเปิดให้บริการมื้อเย็นทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.00 น. และพิเศษสุดๆ เพิ่มรอบในวันที่ 15 เมษายน 2561 (Sunday Brunch) ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 15.00 น. อีกหนึ่งมื้ออีกด้วย
จากที่น้าอ้วนได้เดินดูไลน์อาหารทั้งหมด ที่เรียงรายกันเป็นระยะทางไม่ต่ำกว่า 100 เมตร เริ่มจากสลัดผักสดกรอบ แล้วมาถึงหอยนางรมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส Fine de claire ซึ่งถ้าใครจะทานก็เลือกตัวหอย แล้วส่งให้เชฟเขาแกะเปลือกให้ เสิร์ฟกันสดๆ ไม่มีการแกะทิ้งไว้ พร้อมเลือกซอสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Mignonette sauce หรือน้ำจิ้มสามรส หอมเจียว อร่อยแบบไทยๆ
เดินต่อมาก็จะพบกับสเตชั่นที่ต้องว้าวนั่นก็คือ ขาปูอลาสก้า, ปูม้า, ก้ามกุ้งมังกร, ก้ามปู, กุ้งตัวใหญ่ๆ หยิบได้กันไม่อั้น พร้อมน้ำจิ้มต่างๆ สำหรับน้าอ้วนแล้วเมนูแบบนี้ต้องน้ำจิ้มสามรสเท่านั้น
ถัดมาก็อลังการไม่แพ้กันกับสเตชั่นอาหารญี่ปุ่น แซลมอน, ทูน่า, ฮามาจิ, ซูชิ และเท็มปุระ ก็พร้อมเสิร์ฟกันไม่อั้น เลือกชิ้นปลา หรือซูชิกันแล้ว ก็อย่าลืมพกวาซาบิ และโชยุกลับไปด้วยนะจ๊ะ ออ… ยำสาหร่ายและขิงดองก็เด็ดนะ เสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงนี่แจ๋วเลย
แล้วน้าอ้วนก็เดินผ่านสเตชั่นพาสต้า ได้กลิ่นเชฟกำลังผัดเส้นพาสต้ากับซอสต่างๆ หอมฉุยและที่สำคัญเชฟเขาหั่นเนื้อกุ้งมังกรชิ้นใหญ่มาก รับประกันเต็มปากเต็มคำแน่นอน และสเตชั่นพวกก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวน้ำ ต้มยำทั้งแบบน้ำข้นและน้ำใส อันนี้ก็เหมาะสำหรับใครอยากได้อะไรเป็นน้ำซุปร้อนๆ ซดให้คล่องคอ สั่งได้นะจ๊ะ
และมาถึงสเตชั่นที่รอคอย พระเอกของงาน ทั้งเนื้อวัวแองกัสออสเตรเลีย, กุ้งตัวใหญ่ๆ, ปูทะเล และรวมไปถึงกุ้งมังกร (Canadian Lobster) ที่นำเข้ามาจากแคนนาดา ก็วางเรียงรายกันอยู่เต็มถังไม้ ใครอยากทานอะไร เขียนโน๊ตยื่นให้เชฟได้เลย (อย่าลืมเอาไว้หนีบหมายเลขที่อยู่บนโต๊ะไปด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวเขาจะได้เอามาเสิร์ฟให้ถูกที่) อยากได้เนื้อกุ้งมังกรไปย่างเกลือ, อบเนย, ผัดพริกไทยดำ, อบชีส ฯลฯ ก็ทำได้ เลือกกันได้ตามอัธยาศัย อยากได้กี่ชิ้น กี่ตัวบอกได้ เดี๋ยวเชฟเขาจัดให้
มาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องบอกเลยว่าเต็มไม้ เต็มมือไปหมด ก็ต้องพักที่โต๊ะก่อน จัดการอาหารต่างๆ ที่ตักมา (บางเมนูน้าอ้วนขอให้เชฟเขาแต่งจานมาให้หน่อย เพื่อที่เวลาถ่ายรูปจะได้สวยๆ หน่อย จะได้ดูน่ากิน แต่อาหารทั้งหมดเอามาจากไลน์อาหารที่มีให้บริการนั่นแหละจ้ะ) อีกทั้งพวกเมนู Hot Dish ก็มีพร้อมเสิร์ฟกันร้อนๆ อีกหลายเมนูเลย
เมื่ออิ่มของคาวกันหมดแล้ว เราก็ move body มาดูสเตชั่นของหวานกันบ้าง สเตชั่นอร่อยๆ แบบไทยๆ เมนูขนมไทยตามรอยของท้าวทองกีบม้าก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย หมุนเวียนเปลี่ยนกันเพื่อไม่ให้ซ้ำซากจำเจ หรือจะเป็นเมนูขนมอบตามสไตล์ฝรั่งคี ก็มีให้เลือกเยอะมาก เค้กหลากหลายหน้า รสชาติอร่อย นุ่ม เนียน ปิดท้ายด้วยไอศกรีมโฮมเมดอร่อยๆ ราดซอสรสชาติต่างๆ แนมด้วยผลไม้สดอีกสักนิด รับประกันว่ามื้อนี้ฟิน และอิ่มแปร้แน่นอน
สรุปว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดที่เลิศที่สุดเท่าที่น้าอ้วนเคยไปกินมา ถ้าถามว่าราคา 1,988 บาท (สุทธิ) แพงไหม? ถ้าเห็นครั้งแรกก็ต้องบอกว่าแพง!! แต่ถ้าได้มารู้ มาเห็น มาสัมผัสแล้วก็คงต้องพูดได้ว่าคุ้มสุดๆ ถ้าคิดง่ายๆ ถ้าอยากไปกินกุ้งมังกรสักตัว ที่ร้านอาหารดีๆ ก็คงต้องจ่ายเกือบพัน หรือพันต้นๆ เพื่อได้กุ้งมังกร 1 ตัว ตอนที่ทีมน้าอ้วนสั่งกุ้งมังกรไป พนักงานเขาเอามาเสิร์ฟ คือในจานนั้นมีกุ้งอยู่น่าจะประมาณ 2-3 ตัวได้รวมๆ กันมา คิดในใจว่าถ้าไปกินที่อื่นจานนี้คงจ่ายหลายพันแน่นอน ๕๕๕๕ นี่ยังไม่นับรวมปูอลาสก้า, หอยนางรมฝรั่งเศส, ซาซิมิ, กุ้งทะเลตัวใหญ่ๆ เนื้อวัวออสเตรเลียน เมนูไฮไลท์ต่างๆ ที่สั่งได้ไม่อั้นเช่นเดียวกัน อิ่มกันแบบไม่จำกัดเวลาด้วย
เอาหละใครเห็นแล้วน้ำลายไหล สงกรานต์นี้ยังไม่มีคิว หรือนัดฉลองกันที่ไหน อยากอิ่มอร่อยๆ แบบพรีเมียมคุ้มๆ แบบนี้ โทรจองโต๊ะกันได้เลยที่ 053-253888 โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ มื้อค่ำ 13-15 เมษายน 2561 ตั้งแต่ 18.00 น. – 22.00 น. และมื้อพิเศษ Sunday Brunch เฉพาะวันที่ 15 เมษายน 2561 ตั้งแต่ 12.00 น. – 15.00 น. เท่านั้นนะจ๊ะ
COMMENT