Guu Fusion Roti & Tea ร้านโรตีที่มีมากกว่าคำว่า “โรตี”

ย้อนอดีตไปซัก 10 ปี เมื่อตอนเป็นเด็กวัยประถม (หึ เชื่อตายแหละ /me เบ้ปากใส่) เวลาที่มีอาบังขายโรตี เป็นรถซาเล้งเก่าๆ ปั่นมาจอดขายถึงหน้าบ้าน เด็กน้อยอย่างเราก็กรูเข้าไปห้อมล้อมรถซาเล้งของอาบังคนนั้น เมื่อก่อนนะจะสั่งโรตีธรรดา จำได้ว่าอันละ 3 บาทเท่านั้นเอง ถ้าใส่ไข่ก็ 5 บาท ม้วนใส่กระดาษเป็นแท่งๆ กินอย่างเอร็ดอร่อยและที่สำคัญ ต้องใส่นมข้นเยอะๆ จนปัจจุบันนี้วิวัฒนาการของการขายโรตีก็ยังไม่เปลี่ยนไป บางคนก็ยังปั่นรถซาเล้งมาเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนคือราคาที่แพงขึ้น ตอนนี้โรตีธรรมดาก็ 10-15 บาทกันหมดละ ร้านน้อยใหญ่ที่ขายโรตีกันก็ได้พัฒนา ปรับปรุง คิดค้น สูตรต่างๆ ขึ้นมาเพื่อให้โรตีของตนเองมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นรวมไปถึงร้าน GU Roti Fusion ร้านโรตีฟิวชั่น สร้างสรรค์ ไอเดียบรรเจิด ที่ถือว่าเป็นร้านโรตีที่ได้รับความนิยมที่สุดในเชียงใหม่ คนเชียงใหมเองก็แวะเวียนไปอุดหนุนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง คนต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องแวะมาชิมเพื่อพิสูจน์กิตติศัพท์ที่ร่ำลือของร้านนี้ ว่าเด็ดแค่ไหน จนกระทั่งถือว่าเป็นร้านที่ปักหมุดบนแผนที่เลยว่า Don’t Miss It เลยหละ จึงเรียกได้ว่ามากกว่าคำว่า “โรตี”

ชื่อร้าน : Guu Fusion Roti & Tea เชียงใหม่
ที่อยู่ : ร้านกูโรตีและชาชัก โครงการ @Curve ถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.77209,98.999663 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 053 105731, https://www.facebook.com/guufusionrotiandtea
เวลาเปิด-ปิด :  09:00 – 20:30 น. ทุกวัน

ร้านกูโรตีและชาชัก สาขา @Curve เป็นสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดขึ้นมาครับ หลายคนอาจจะสงสัยว่าร้านกูโรตี ในเชียงใหม่มีอยู่ 4 สาขา ถ้าพูดกันแล้วสาขาแรกสุดที่ถนนนิมมานเหมินทร์คือแรกเริ่มของร้านกูโรตีนี่เอง และสาขา @Curve ก็คือสาขาที่สอง ที่เจ้าของเขาเปิดเอง แต่ใครที่ขับรถผ่านไปผ่านมาตรงเส้นคูเมือง (ประตูเชียงใหม่) ก็มีร้านกูโรตีเหมือนกันครับ แต่เป็นสาขาที่เป็นเฟรนไชน์และสาขาที่ใกล้ๆ ประตูช้างเผือกนั่นก็เป็นเฟรนไชน์เหมือนกันนะครับ

วันนี้เรามารีวิวที่สาขา @Curve กันเป็นหลักนะครับ หลายคนก็คงอาจจะยังไม่รู้ว่า @Curve อยู่ตรงไหน ที่นี่เป็นช้อปปิ้งมอลล์เปิดใหม่ครับ ตั้งอยู่บนถนนช้างคลาน อยู่เยื้องๆ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเม็มโมเรียล ทางไปหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์นั่นเอง ส่วนร้านกูโรตี จะอยู่บริเวณฝั่งถนนเจริญประเทศ ตรงข้ามโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถมครับ

สำหรับร้านนี้ตกแต่งภายในด้วยสไตล์ของผนังอิฐครับ โต๊ะและเก้าอี้จะมีให้เลือกสองแบบคือจะเอาเป็นแบบโซฟานุ่มๆ  นั่งสบาย หรือจะเป็นโต๊ะและเก้าอี้ไม้ก็ได้ และยังมีโซนบาร์แล้วหันหน้าออกไปยังข้างนอกร้าน นั่งดูรถที่สัญจรไปมา นั่งดูผู้คนเดินไป เดินมา ก็ถือว่าเป็นอีกอารมณ์ชิลๆ อย่างหนึ่งในการมากินโรตีในครั้งนี้

มาพูดถึงเมนูอาหารมาก วันนี้ถือเป็นวันที่น้าอ้วนเหนื่อยอีกวันหนึ่งที่ต้องโฟกัสเมนูอาหารเพื่อถ่ายรูปออกมา เพราะมันเยอะมากครับ โรตีที่นี่เขาทำออกมาหลายรูปแบบมาก และแต่ละรูปแบบก็จะมีรสชาติ หรือลักษณะปลีกย่อยในตัวของมันเองนับ 10-20 อย่างด้วยกัน เลยทำให้ร้านนี้ถ้าเรานับรวมๆ กันแล้วน้าอ้วนว่าน่าจะมีโรตีมากกว่า 100 ชนิดให้เลือกรับประทานแน่นอน

ถึงแม้เมนูโรตีที่นี่จะมีมากกว่า 100 อย่าง แต่เชื่อได้ว่าถ้าเจ้าของร้านจัดเต็มขนาดนั้น ก็คงต้องได้หามน้าอ้วนส่งโรงพยาบาลฝั่งตรงข้ามแน่ๆ ดังนั้นทางร้านก็จึงขอนำเสนอเมนูที่เรียกว่าเป็นเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง เมนูที่ฮิตติดลมบน ถ้าเป็นพวกเพลงเขาก็เรียกว่า TOP Chart อะไรประมาณนั้น

เมนูแรกเป็นเมนูที่แปลกและแหวกแนวมาก แต่หน้าตามันคุ้นมาก ตอนแรกที่น้องพนักงานเอามาวางตรงหน้า น้าอ้วนคิดในใจนะว่า “ที่นี่เขามีขนเบื้องด้วยเหรอวะ” หึหึ แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ครับ ชื่อของมันอย่างเป็นทางการก็คือ โรตีทิชชู่ฝอยทอง ที่จริงแล้วเจ้าโรตีชนิดนี้ได้แนวความคิดมาจากขนมเบื้องนั้นแหละ เนื่องด้วยเจ้าของร้านเขาเป็นคนชอบทานขนมเบื้องอยู่แล้ว ก็เลยมีแนวความคิดที่อยากจะดัดแปลง โดยใช้โรตีกรอบมาเป็นแป้งขนมเบื้อง ใส่วิปปิ้งครีมแทนครีมสด และฝอยทองแทนไส้ขนมเบื้อง รสชาติออกมาน้าอ้วนติดใจครับ เพราะเจ้าตัวแป้งโรตีกรอบ มันกรอบมาก วิปปิ้งครีมก็หวานนิดๆ ทานคู่กับฝอยทอง มันเป็นขนมที่อร่อยลงตัวมาก

สำหรับเจ้าตัวนี้เป็นโรตีชีสนะครับ แต่จะราดด้วยคาราเมล และช็อคโกแลต ที่จริงแล้วเขาจะเสิรฟอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มโรคร้อน ๕๕๕ ก็เลยเอ้าเสิร์ฟมาพร้อมกันในจานเดียวเลย ด้วยชีสที่เป็นแผ่นๆ โปะอยู่บนโรตีแต่ละชิ้นที่หั่นเป็นพอคำ เวลาเอาเข้าปากมันจะรู้สึกถึงความมันและความหวานของซอสที่ราด ใครชอบชีสหละก็น้าอ้วนว่าห้ามพลาดสั่งเด็ดขาด

สำหรับตัวนี้เป็นโรตีที่หลายๆ คนต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะนอกจากที่เราจะสั่งโรตีแล้ว เรามักจะสั่งโรตีกล้วยหอมมาเป็นอันดับสอง แต่ที่นี่การนำเสนอหน้าตาของอาหารเขาทำได้ดีนะ อย่างโรตีกล้วยหอมจานนี้ตกแต่งสวยงามดีครับ มีวิปปิ้งครีมและไอศครีมมาด้วย

มาถึงเมนูฟิวชั่นบ้าง เมนูนี้มีความเป็นเหนืออย่างเต็มเปี่ยม ด้วยการนำเอาอาหารเหนือแท้ๆ บ้านเราอย่างไส้อั่ว มาผสมกับโรตี จนกลายมาเป็นโรตีไส้อั่ว ที่รสชาติออกมากลมกล่อมครับ ถึงแม้เขาจะฟิวชั่นกันแต่ความจัดจ้านของไส้อั่วก็ใช่ว่าจะลดทอนลงไป ไส้อั่วที่เขาขายในตลาดเป็นยังไง รสชาติที่นี่ก็เป็นอย่างนั้นเลยครับ รสเด็ดสะใจมาก

ปิดท้ายเมนูฟิวชั่นอีกตัวหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าคำเดียวฟินได้ทุกอย่าง กับโรตีข้าวกระเพรา เป็นการประยุกต์ ดัดแปลงเอาข้าวผัดกระเพราที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมาห่อด้วยแป้งโรตีแล้วทอด เมนูนี้บอกเลยว่าน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรง่ายๆ แค่หยิบแล้วใส่ปาก จบข่าวได้ทั้งข้าว ได้ทั้งกระเพรา ได้ทั้งโรตี ในคำเดียว (เหมือนพวกซูชิที่อิ่มเป็นคำๆ) แต่ใช่ว่าเอามาฟิวชั่นดัดแปลงแบบนี้แล้วความเป็นข้าวกระเพราจะลงน้อยลงไปนะครับ ในทางกลับกันรสชาติของกระเพรายังจัดจ้านอยู่เหมือนเดิม

ตามด้วยเครื่องดื่มอย่างชาชักและชาเขียวปั่น ที่รสชาติเข้มข้น หอมมัน อร่อย ทั้งสองแก้วเลยครับ

จากการคิดค้น จากการประยุกต์เอาโรตีที่เราคุ้นเคยเมื่อสมัยเด็กๆ เมื่อก่อนมันก็คงมีแต่โรตีธรรมดา โรตีใส่ไข่ หรือใส่กล้วยหอม แต่พอเจ้าโรตีมันได้มาอยู่ที่ร้านกูโรตี และชาชักแล้วหละก็ จากโรตีเพียงอย่างเดียว ก็ถูกตีโจทย์ให้ฟิวชั่น กลายเป็นโรตีในรูปแบบต่างๆ ตามที่ลูกค้าหลากหลายชื่นชอบกัน รวมไปถึงการนำโรตีที่เราคิดว่าเป็นอาหารหวาน ให้มาเป็นอาหารคาวได้อย่างลงตัว เช่นโรตีไส้อั่ว และโรตีข้าวกระเพราไก่ มันแสดงให้เห็นว่าแนวคิด ในการสร้างสรรไอเดียของเจ้าของร้านกูโรตี และชาชักนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ดังนั้นจึงสมแล้วหละครับว่า ร้านนี้ทำไมถึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนเชียงใหม่หลายๆ คนและชาวต่างจังหวัดที่มาเที่ยวเชียงใหม่แล้ว จะต้องแวะ เหมือนว่าถ้าไม่ได้แวะก็เหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่นั่นเอง

Share on Facebook

Tweet

Follow us