T Station บรรยากาศสไตล์ย้อนยุค และอาหารรสชาติที่ลงตัว

คราวที่แล้วน้าอ้วนพาไปเที่ยวร้านคาเฟ่สไตล์เก๋ๆ ของพี่โน้สอุดมมาแล้ว ที่ตั้งอยู่ในโครงการ Think Park สี่แยกรินคำ แต่วันนี้น้าอ้วนมีโอกาสได้แวะเข้าไปเยียมชมโรงแรม Eastin TAN Chiang Mai ซึ่งเป็นโรงแรมน้องใหม่ล่าสุดในเครือ Eastin ซึ่งเป็นโรงแรมที่เรียกว่าอยู่แบรนด์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย โรงแรมตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างๆ โครงการ Think Park และอยู่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเมญ่า เชียงใหม่ เรียกได้ว่าเป็น Location ที่ค่อนข้างเพอเฟ็คเลยทีเดียว และหนึ่งในนั้นเขาก็มีห้องอาหาร T Station ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม วันนี้น้าอ้วนจะพาไปเยี่ยมชมและเยี่ยมชิมห้องอาหาร T Station – Eastin Tan Hotel Chiang Mai กันนะจ๊ะ เรียกได้ว่าเป็นสื่อแรกของเชียงใหม่เลยก็ได้เนี่ยที่ได้แวะไปรีวิว อิอิ …. เขิลเบย

ชื่อร้าน : T Station บรรยากาศสไตล์ย้อนยุค อาหารทุกประเภทด้วยรสชาติที่ลงตัว
ที่อยู่ : 165 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.801328,98.967289 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 052 001 999 , https://www.facebook.com/TStationAtEastin
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 23:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/181040Wf-t-station

งานนี้ใครที่อยากจะมานี่น้าอ้วนบอกเลยว่าถ้ามาไม่ถูกนี่จะตีให้ตายเลย เพราะโรงแรม Eastin Tan Chiang Mai ตั้งอยู่บน Location ที่เรียกได้ว่าเด่นเป็นอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่เลยบริเวณสี่แยกรินคำ (ตรงข้ามห้างเมญ่า ฝั่งถนนห้วยแก้ว) ห้องอาหาร T Station ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรมนะครับ ถ้าเข้ามาจากทาด้านหน้าของโรงแรมก็ขึ้นบันไดเลื่อนมา แล้วห้องอาหารจะอยู่ด้านขวามือ หรือถ้าใครเข้ามาจากทาง Think Park ซึ่งเขาก็ทำทางเชื่อมระหว่างโครงการและโรงแรม ก็สามารถเดินเข้ามาได้เลยจ้า ห้องอาหารก็จะอยู่ซ้ายมือเลย

สำหรับบรรยากาศของ T Station แห่งนี้เขาจะตกแต่งในคอนเซ็ปสถานีรถไฟนิวยอร์ค ในยุค 1920 (New York Train Station, 1920) ซึ่งด้านในเขาก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในสถานีรถไฟ หรือบางโซนก็ตกแต่งเป็นรูปแบบของโบกี้รถไฟเป็นต้น และสำหรับคนที่ต้องการนั่งข้างนอกโซน Open Air เขาก็ตกแต่งไว้เป็นสไตล์อุโมงค์รถไฟด้วย ทำให้ได้บรรยากาศและอารมณ์ร่วมในธีมของสถานีรถไฟนิวยอร์ค ปี 1920

ในส่วนของเมนูอาหาร ที่นี่ทำออกมาแนวย้อนยุคซะหน่อย ด้วยการใช้กระดาษสีน้ำตาลพร้อมทั้งฟ้อนท์เป็นแบบพิมพ์ดีด ทำให้ย้อนนึกถึงอารมณ์สมัยก่อนที่จะนิยมใช้ปริ้นเตอร์ในการออกแบบงานพิมพ์กัน อาหารที่นี่ก็จะมีทั้งอาหารฝรั่ง และอาหารไทย ราคาก็ต้องยอมรับว่าระดับโรงแรมราคาก็คงต้องสูงเป็นธรรมดา แต่ดูราคากับจานที่เสิร์ฟมาแล้ว น้าอ้วนว่าโอเคนะ สมเหตุสมผลกัน

อย่างที่บอกโรงแรมนี้เขามีอาหารอยู่หลากหลายชาติพันธุ์ แต่เอาแบบทั่วไปละกันที่น้าอ้วนชอบรีวิว วันนี้ขอนำเสนอสัก 2 ประเภทนะจ๊ะคืออาหารฝรั่งและอาหารไทย โดยเริ่มจากเมนูแรกละกันเนอะ เป็นอาหารฝรั่งที่น้าอ้วนเชื่อว่าใครหลายคนคงอาจจะชอบ และใครหลายคนอาจจะไม่ชอบ นั่นก็คือ Pan-Fried Foie Gras ตับห่านนั่นเอง จุดเด่นของตับห่านที่นี่คือเชฟเขาจะทำมา 3 ระดับในชิ้นเดียวกันคือด้านนอกเกรียม ด้านขอบสุก และด้านในยังนิ่ม เวลาที่เราหั่นแล้วเอาเข้าปากมันจะได้รับรู้ถึง 3 ความรู้สึกก็คือกรอบ สุก และนิ่ม และที่นี่ทำแปลกเพราะที่อื่นๆ เขามักจะเสิร์ฟพร้อมกับพวกซอสแอ๊ปเปิ้ล แต่ที่นี่เชฟเขาเสิร์ฟคู่กับซอสมะม่วงและองุ่นไซเดอร์ ก็แปลกและอร่อยไปอีกแบบนะ

จานที่สองเรายังไม่บินกลับไทย เรายังวนเวียนอยู่แถวๆ แถบยุโรป จานที่สองคือ Duck Breast อกเป็ดซอสส้ม จะเป็นเนื้ออกเป็ดที่ค่อยๆ ทำให้สุก ดังนั้นเนื้อของอกเป็ดจึงยังคงแน่นและยังฉ่ำ ในจานก็จะเสิร์ฟพร้อมผักย่างวัยกระเตาะ (Baby Vegetables) และราดมาพร้อมกับซอสส้มอบเชย

อ่ะ พอถึงจานนี้แล้วน้าอ้วนอยากได้เบียร์สักแก้ว ๕๕๕๕ Pork Knuckle ขาหมูทอด ก็ต้องทานคู่กับเบียร์ถึงจะเข้ากันใช่ป่ะ ขาหมูทอดที่นี่ขาใหญ่พอสมควร เชฟจะหั่นมาให้แล้ว เราแทบจะไม่ต้องได้ลงไม้ลงมืออะไรมากมาย โดยเราก็แค่อาจจะหั่นให้ชิ้นเล็กตามที่ต้องการเท่านั้น ขาหมูที่ทอดมา หนังด้านนอกกรอบมาก ไขมันที่แทรกมายังหยุ่นๆ นุ่ม ฉ่ำ และเนื้อด้านในก็สุกและกรอบกำลังดี เวลาทานก็ราดด้วยน้ำจิ้มสามรส และ Potato Wedge พร้อมกันมันก็ทำให้ฟินได้เลยนะจ๊ะ

ถึงตอนนี้กลับมาชิมอาหารไทยบ้านเราบ้างนะจ๊ะ ใช่ว่าที่นี่จะดีงามเฉพาะอาหารฝรั่ง ขอเม้าท์เรื่องเชฟที่นี่นิดหนึ่ง พ่อครัวใหญ่ที่นี่เขาผ่านงานโรงแรมมาแล้วมากมาย โรงแรมระดับ 5 ดาว 6 ดาว เขาก็เคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นก็ไว้ใจได้ว่าวันนี้เราจะได้กินแต่อาหารที่เริสๆ ทั้งนั้น อิอิ …. อ่ะ เข้าเรื่องกันต่อ เมนูต่อไปแกงมัสมั่นเนื้อ เนื้อที่ตุ๋นและเคี่ยวมาอย่างดี นุ่มและเปื่อยกำลังดี คุกเคล้ากับเครื่องแกงมัสมั่นที่หอมกลิ่นเครื่องเทศ รสชาติกลมกล่อม แซมด้วยมันฝรั่ง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ มันโอเคมากเลย

ปิดท้ายด้วยเมนูง่ายๆ ตามสไตล์ชาวบ้านๆ ยำมะม่วงปลาทอด ปลากะพงตัวขนาดพอดีๆ ทอดมาจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับยำมะม่วงแบบฉบับแห้งขลุกขลิก ไม่ได้น้ำยำท่วมเหมือนที่อื่น แต่บอกเลยว่ารสชาตินี่สุดยอดจัดจ้าน คนชอบรสจัดอย่างน้าอ้วนนี่เอาใจไปเลย

ปิดท้ายมื้ออาหาร ถ้ากินของคาวและไม่กินของหวาน ก็คงกระไรอยู่ เดี๋ยวจะโดนนินทา ๕๕๕๕ วันนี้เลยจัดมาเลย 2 ตัวนะจ๊ะ เอาตัวเด่นๆ แบบว่าใครมาแล้วจะต้องห้ามพลาดที่จะสั่ง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง T Station ตัวแรกก็คือ Kahlua-Flavoured Tiramisu ทีรามิสุ อ่ะ… หลายคนคงคิดในใจ มันเด่นตรงไหน ที่ไหนๆ เขาก็มี เป็นเมนูพื้นๆ มาก แต่ที่นี่บอกเลยว่าแตกต่าง ถ้าพูดกันตรงๆ ว่าถ้าไม่เฉลยก่อนว่าจะได้กินอะไร ถ้าเอามาวางตรงหน้า น้าอ้วนทายไม่ถูกนะ เพราะปกติแล้วทีรามิสุ ที่เราคุ้นตามันจะเป็นลักษณะเป็นชั้นๆ แต่ที่นี่ปั่นแล้วมิกซ์กันมาเป็นเนื้อเดียว แต่ยังคงความหอม หวาน มัน และเข้มของกาแฟเป็นอย่างดี งานนี้เรียกได้ว่าอร่อยในความแตกต่าง

ของหวานอีกหนึ่งเมนูที่อยากนำเสนอก็คือ Dark Ecaudorian Chocolate Mousse เป็นช็อคโกแลตมูสแนวใหม่ ซึ่งถ้าเราไปกินตามร้านต่างๆ เมนูนี้จะเป็นลักษณะหยุ่นๆ คล้ายๆ วิปปิ้งครีม แต่ที่นี่เขาเซ็ทตัวมาแบบแข็งโป๊ก แต่ก็ไม่ได้แข็งอะไรมากนะ ออกแนวความรู้สึกเหมือนเค้กไอศครีมของสเวนเซ่นอ่ะ อะไรประมาณนั้น ส่วนรสชาตินี่ก็บอกเลยว่าเข้มข้นมาก ด้านในยังแอบสอดไส้ ไวท์ ช็อคโกแลตด้วยนะ บอกเลยว่าโรงแรมนี้ชอบทำอะไรที่แตกต่าง แต่ลงตัว

มีอีกอย่างหนึ่งที่โรงแรมแห่งนี้อยากจะอวด โดยเฉพาะเรื่องของ Cocktail บาร์เทนเดอร์ที่นี่ประสบการณ์มากมาย ได้แชมป์การประกวดมาหลายเวที ดังนั้นใครที่อยากมาดื่มอะไรเบาๆ หวานๆ สดชื่นๆ ต้องไม่พลาดที่จะมา T Station แห่งนี้ วันนี้น้าอ้วนก็มี Cocktail และ Mocktail (Cocktail คือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเหล้า ส่วน Mocktail ไม่มีเหล้าผสมนะจ๊ะ บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้จัก) ตัวแรก Vodka-T (Vodka / Grand Marnier / Ichitan / Sweet Basil) เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าเสิร์ฟกันมาแบบอลังการมาก บาร์เทนเนอร์จะผสมเครื่องดื่มต่างๆ แล้วเทใส่ในกา เอาน้ำแข็งป่นวางบนแผ่นไม้ แล้วเอากาไปวางบนน้ำแข็งอีกที เสิร์พพร้อมแก้ว เวลาจะดื่มก็ต้องรินชาใส่แก้วเอง รสชาติจะออกหวานๆ เปรี้ยวๆ ตามสไตล์ของค็อกเทล แต่ที่โดดเด่นมาอีกอย่างหนึ่งคือ หลายๆ เมนูเครื่องดื่มของที่นี่ เขาจะมีส่วนผสมของ เครื่องดื่มอิชิตัน อยู่ด้วย สำหรับ Vodka-T นี้ผสมอิชิตันรสข้าวญี่ปุ่นนะจ๊ะ กลิ่นหอมดีมาก

Zeed Sip (Grand Marnier / Ichitan / Passion Fruit / Chili Flakes) ค็อกเทลแก้วนี้ถือเป็นความภูมิใจของ T Station และอาจจะเรียกว่าเป็น Signature ก็ได้เช่นกัน ปกติสาวๆ ที่ชอบดื่มค็อกเทลก็จะเห็นพวกเกร็ดเกลือจะอยู่บนขอบแก้วกันใช่ไหม? ที่นี่ก็เหมือนกันจ่ะ มีเกล็ดเกลือด้วยแต่ …. เขาจะมีพริกป่นและน้ำตาลด้วยนะจ๊ะ ออกแนวอารมร์กินมะม่วงน้ำจิ้มพริกเกลือ ๕๕๕๕ รสชาติของค็อกเทลก็ออกแนวเผ็ดร้อนเล็กน้อย เมื่อได้ผสมกับพริกเกลือที่อยู่บนขอบแก้ว น้าอ้วนว่ามันอารมณ์แบบ Thai Style มาก

T Punch (Ichitan / Grape Juice / Orange Juice) อันนี้เป็น Mocktail อารมณ์เบาๆ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแค่ความสดชื่น แต่ไม่อยากได้ความกรึ่มๆ ๕๕๕๕ ส่วนผสมหลักก็จะมีชาอิติตันนั่นแหละ แล้วก็มีน้ำองุ่นและน้ำส้ม เป็นส่วนผสมจ่ะ

ปิดท้ายด้วยอีกเมนูหนึ่งที่ออกแนวสาวเปรี้ยว Jazzika (Passion Fruit / Lychee / Apple Cider) เครื่องดื่มที่ตั้งชื่อตาม GM ของโรงแรมด้วย ด้วยลักษณะของตัวเครื่องดื่มที่เน้นความเปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นหลักด้วยเสาวรส ลิ้นจี่ และแอ๊ปเปิลไซรับ ผสมเนื้อลิ้นจี่ที่ได้กินแล้วรู้สึกสดชื่น

การแสดงของ Bartender ห้องอาหาร T Station – Eastin Tan Hotel Chiang Mai เครื่องดื่มทั้งหมดที่รีวิวในวันนี้ ก็เป็นฝีมือมาจากบาร์เทนเดอร์สองท่านนี้แหละจ่ะ 🙂

T Station Eastin Tan Chiang Mai ร้านอาหารคุณภาพอีกร้านหนึ่งที่ถือว่าเป็นน้องใหม่สำหรับชาวเชียงใหม่ ด้วย Location ที่ไปมาสะดวก และยังใกล้แหล่งเดินช้อปปิ้งเก๋ๆ อย่าง Think Park จึงทำให้ที่น่าน่จะมีเป็น Landmark อีกแห่งหนึ่งสำหรับชาวเชียงใหม่ได้ อีกทั้งในช่วงฤดูหนาวนี้ทางโรงแรมก็ได้เปิดลานเบียร์เฉพาะ ซึ่งจะให้บริการตั้งแต่วันนี้ถึง 4 มกราคม 2558 บริเวณด้านหน้าของห้องอาหาร T Station ซึ่งก็จะมีบริการทั้งเบียร์และกับแกล้ม หากใครแวะเวียนผ่านไปมา หรือไปเที่ยวเล่น เดินเล่นที่ Think Park มา ก็แวะมานั่งดื่ม นั่งทานอาหารที่ T Station นี้ได้นะจ๊ะ

Share on Facebook

Tweet

Follow us