รสชาติพื้นบ้าน อาหารอีสาน รสเด็ด สูตรต้นตำรับจากเมืองขอนแก่น

By น้าอ้วน 9 years ago

ถึงแม้จะอยู่เมืองเหนือ แต่บางทีคนเราก็เบื่ออาหารพื้นบ้านเนอะ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม จิ้นทอด หรือแม้แต่อาหารภาคกลางถ้ากินบ่อยๆ ก็คงไม่ไหว บางคนก็อยากทานอาหารอีสานบ้าง หรืออยากหาปลาร้ามาจกกับข้าวเหนียวแซ่บๆ ๕๕๕๕ ถ้าพูดถึงร้านอาหารอีสานในเชียงใหม่ ก็ต้องยอมรับว่าพี่น้องชาวอีสานก็มาเปิดร้านกันอยู่หลายคน หรือแม้แต่คนภาคอื่นที่มีฝีมือในการทำอาหารอีสานก็มาเปิดร้าน แต่ถ้าเราอยากทานอาหารอีสานจริงๆ ทำไมเราไม่ไปร้านที่เขาเป็นคนอีสานแท้ดั้งเดิมหละ แน่นอนว่ารสชาติหรือสูตรต้นตำรับมันต้องมาจากแหล่งของมันแน่นอน และในวันนี้น้าอ้วนก็มีร้านอาหารอีสานร้านหนึ่ง รสชาติแท้ๆ เพราะแม่ครัวนี่อิมพอร์ตมาจากเมืองขอนแก่นเลย และวัตถุดิบหลักๆ ส่วนใหญ่ก็เอามาจากแหล่งที่อยู่ที่อีสานนู้นนนนน ร้านอาหารอีสานน้องใหม่ ชื่อเก๋ๆ อย่างร้าน อีสาน แซ่บเวอร์ จะเป็นยังไง คงต้องติดตามกันในรีวิวนี้แหละจ้าาาาาาา

ชื่อร้าน : อีสาน แซ่บเวอร์
ที่อยู่ : โครงการ เชียงใหม่ บิซิเนส ปาร์ค ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.799093, 99.023975
ติดต่อ : 087-8580249 , https://www.facebook.com/pages/ร้านอีสานแซ่บเวอร์/1385197745112829
เวลาเปิด–ปิด : 10:00 น. – 21:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/204746RC-อีสานแซ่บเวอร์

ร้านอาหารอีสานเปิดใหม่ ใกล้แหล่งออฟฟิสแห่งใหม่ของพี่น้องชาวเชียงใหม่ ร้านนี้เขาตั้งอยู่ในโครงการเชียงใหม่ บิซิเนส ปาร์ค ซึ่งคือโครงการศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณหลังบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ศาลเด็กนั่นเอง ร้านก็หาง่ายดีนะ เพราะเขาอยู่ซอย 5 ถ้าเอาจัดสังเกตแบบง่ายๆ เลยคือถนนเส้นที่จะสามารถทะลุเข้าประตูด้านหลังของบิ๊กซีเลย ร้านจะอยู่ขวามือนะจ๊ะ และด้านซ้ายมือจะเป็นร้าน Shabugu ถ้าหาไม่เจอก็โทรถามได้ 087-8580249 นั่นแหละ

บรรยากาศร้านจะเป็นร้านเล็กๆ เป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา มีโต๊ะก็อยู่ประมาณ 6 ตัวได้นะจ๊ะ ใครที่ไปตอนเที่ยงอาจจะต้องรอกันนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่นานอะไรมากมาย ส่วนเรื่องที่จอดรถ ในโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ ที่จอดรถก็ค่อนข้างกว้างขวางและเยอะดี เลือกจอดกันได้ตามอัธยาศัย

ในส่วนของเมนูต่างๆ วันนี้ขอเลือกนำเสนอกันไม่เยอะนะจ๊ะ เพราะอยากจะให้ดูตัวเด่นๆ ก่อน และส่วนที่เหลือแฟนๆ อาจจะตามไปทานกันเองที่ร้าน เพราะที่นี่เมนูอาหารค่อนข้างหลากหลาย ตามแบบฉบับของอาหารอีสานทั่วไป เมนูเรียกน้ำย่อยจานแรกที่เสิร์ฟมา ง่ายๆ แต่ว่าคงคุ้นเคยกันดีก็คือ ตำผลไม้ (45 บาท) ซึ่งเลือกได้ว่าเอาเป็นตำไทย หรือตำปลาร้า จานนี้เป็นตำปลาร้านะจ๊ะ สีสันอาจจะดูเข้มสักนิดแต่รสชาตินี่บอกว่าแซ่บ และปลาร้าที่นี่เขาใช้ปลาร้าต้มสุก ปลอดภัย สะอาดและเป็นปลาร้าที่เอามาจากขอนแก่นเลยนะ งานนี้บอกเลยว่ามีแซ่บ

ยำเห็ดรวม (70 บาท) เมนูเพื่อสุขภาพด้วยการนำเอาเห็ดที่ถือว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ มายำด้วยกัน ซึ่งในจานนี้เขาก็จะมีทั้งเห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนูขาว เห็ดนางฟ้า และเห็ดออรินิจิ น้ำยำรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน คลุกเคล้ากันได้แบบลงตัวเลยแหละ

หรือจะเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ที่อาจจะสั่งมาเพื่อรอเมนูหลักอย่าง ปีกไก่ทอดน้ำปลา (100 บาท) ชิ้นโตๆ รสชาติกรอบนอก นุ่มใน ปีกไก่ที่ได้รับการหมักอย่างเข้าเครื่อง รสชาติด้านในจะออกหวานๆ เค็มๆ ถ้าได้จิ้มกับน้ำจิ้มไก่ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย น้าอ้วนบอกเลยว่าฟินตั้งแต่เริ่มเรียกน้ำย่อยละ

อีกเมนูหนึ่งที่เรียกว่ายอดฮิตสำหรับพี่น้องชาวอีสาน เมนูแกงอ่อมอีสาน (60 บาท) เมนูเพื่อสุขภาพ ชามโต เสิร์ฟมาพร้อมกับคุณประโยชน์ของผักต่างๆ ที่ถือว่าเป็นผักพื้นบ้านทางภาคอีสาน อ้อมลืมไปว่าเป็นแกงอ่อมอีสานใส่ไก่นะจ๊ะ รสชาติน้ำแดงกลมกล่อมตามแบบฉบับอีสานแท้ และกลิ่นของผักชีลาวที่หอมมาแต่ไกล แนะนำเลยว่าต้องซดน้ำตอนร้อนๆ แล้วจะรู้สึกถึงความอร่อยที่ไหลลงคอ

อาจจะเรียกว่าเป็นไฮไลท์ของร้านนี้ก็ว่าได้ กับเมนูชุดเมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือ (220 บาท) ปลาทับทิมตัวใหญ่ๆ เผาเกลือมาแบบว่าหอมฉุย เมื่อลองคลี่เกร็ดปลาออก จะเผยให้เห็นเนื้อปลาที่สีขาวสลับกับสีน้ำตาล นุ่มและหอมมาก สำหรับเมนูนี้ใครจะทานเนื้อปลาจิ้มกับน้ำจิ้มเปล่าๆ ก็ได้ แต่ถ้าใครอยากจะเน้นเพื่อสุขภาพสักนิด เขาก็มีชุดผักและขนมจีนที่เสิร์ฟมาในเซ็ท ทำเป็นเมี่ยงปลาเผาได้อร่อยและมีประโยชน์ สาวๆ คนไหนไม่อยากทานอะไรหนักๆ นี่เลยน้าอ้วนแนะนำ ชุดเมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือ กินแล้วไม่อ้วนนะจ๊ะ

จิ้มจุ่ม … อีกเมนูหนึ่งที่พี่น้องชาวอีสานรู้จักกันดี เสิร์ฟกันมาเซ็ทใหญ่ๆ ทั้งหมู, ไข่, ตับ และผักตะกร้าโตๆ ที่มาพร้อมกับผักต่างๆ และเห็ดเข็มทอง รวมไปถึงเห็นออรินจิชิ้นโตๆ ในราคาเพียง 180 บาท (น้าอ้วนว่าอิ่มกันได้ 2-3 คนนู่นแหละ) สำหรับจิ้มจุ่มที่นี่เขาจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสามรสที่แซ่บเอาเรื่อง , น้ำจิ้มสุกี้ และน้ำจิ้มแจ่วที่เป็นสูตรเด็ดของทางร้าน ใครชอบน้ำจิ้มตัวไหน เลือกจิ้มกันได้ตามอัธยาศัย

ถ้าใครสั่งจิ้มจุ่มมาแล้ว ในระหว่างที่รอให้น้ำซุปเดือด หรือรอให้หมูสุก ก็อาจจะสั่งเมนูง่ายๆ เช่นซุปหน่อไม้ (45 บาท) และน้ำตกคอหมูย่าง (60 บาท) มาทานรอก่อนก็ได้ บอกเลยว่าทั้งสองจานนี้รสชาติเด็ดไม่แพ้เมนูอื่นๆ เลย

ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่แม่ครัวนี่เรียกได้ว่าอิมพอร์ตมาจากขอนแก่น เมืองศูนย์กลางของภาคอีสาน ด้วยประสบการณ์ของเชฟใหญ่ที่นี่ ทำให้การทำอาหารอีสานแต่ละจาน มันได้สะท้อนถึงรสชาติและศิลปะของอาหารอีสานในตัวของมันออกมาอย่างลงตัว อีกทั้งร้านนี้ก็ยังเป็นร้านเล็กๆ ราคานี่บอกเลยว่าไม่แพง เริ่มต้นกันที่ 30 บาทเท่านั้นเอง น้าอ้วนว่า “อีสานแซ่บเวอร์” แห่งนี้น่าจะเป็นร้านอาหารอีสานอีกร้านหนึ่งที่หลายๆ คนน่าจะมาลอง และอาจจะติดใจกลับมาให้ในครั้งต่อๆ ไปอีกแน่นอน