FOLLOW US ON SOCIAL

ลิ้มรสอาหารฟิวชั่นรสชาติแปลกใหม่ จากเชฟใหญ่มากประสบการณ์ ที่ 49 Garden Cafe & Bistro

ถ้าได้ผ่านและแวะเวียนไปแถวๆ วัดร่ำเปิง ก็คงสะดุดตากับร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งถ้ามองเข้าไปแล้วก็จะเห็นเป็นสวนหย่อมอยู่บริเวณรอบบ้าน และตัวตึกก็จะเป็นสีเหลืองสะดุดตา ตึกค่อนข้างใหญ่ เชื่อเถอะใครที่ได้ผ่านไปแถวนั้นต้องเห็นแน่นอน ๕๕๕๕ และนี่คือร้านอาหารที่น้าอ้วนจะมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้นี่เอง ร้านนี้ก็คือ 49 Garden Cafe’ & Bistro ชื่อนี้หลายคนคงคุ้นหูมาก่อน ใช่แล้วเพราะเขามีสาขาแรกอยู่แถวถนนเส้นพืชสวนโลกไง และนี่คือสาขาร่ำเปิงนั่นเอง

เส้นทางการมาร้านนี้ก็ง่ายๆ น้าอ้วนขอแนะนำ 2 เส้นทางหลัก ซึ่งได้แก่

  • ถ้ามาจากเส้นหลังมอชอ ก็ให้เข้าซอยวัดอุโมงค์ ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงวัดอุโมงค์ ก็ให้เลี้ยวซ้ายลัดเลาะไปตามกำแพงวัด เมื่อสุดถนนแล้วจะเป็นสามแยก ให้เลี้ยวขวา แล้วขับไปตามทางเรื่อยๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ด้านขวามือ ขับเลยร้านไปนิด ที่จอดรถจะอยู่ติดกับร้านเลย
  • หรือใครมาจากถนนเส้นคันคลองชลประทาน (ขาเข้าเมือง) ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยวัดร่ำเปิง (ซอยก่อนถึงโรงแรม B2 Premier) ขับตรงมาเรื่อยๆ ถึงแม้จะเจอทางแยะก็ไม่ต้องเลี้ยวนะจ๊ะ ตรงอย่างเดียว ประมาณ 500 เมตร จะเจอสี่แยก (ที่ 2) จุดสังเกตคือจะมีโครงการบ้านข้างวัดอยู่ ให้เลี้ยวขวา เลยโครงการบ้านข้างวัดมานิดเดียว ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือจ้า ที่จอดรถกว้างขวางเข้าไปจอดได้เลย

เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณร้านแล้ว สิ่งแรกที่ทุกคนจะเห็นก็คงเป็นต้นมะม่วงขนาดใหญ่ ที่เด่นเป็นสง่าอยู่กลางสวน และจะมีชานไม้สร้างรอบๆ ต้นไม้และจะมีบันไดที่สร้างเหมือนบ้านต้นไม้ให้เดินขึ้นไปข้างบนได้ด้วย และบริเวณรอบๆ ก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้อยู่ตามจุดต่างๆ สำหรับลูกค้าที่ต้องการและมุมพักผ่อนของตัวเองตามชอบใจ ในส่วนของตึกสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์เด่นของร้านด้านในก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้จัดเรียงอยู่พอสมควร ด้านในก็จะตกแต่งตามสไตล์บ้านเก่า บางจุดอาจจะมีสีลอกล่อน แต่ไม่ต้องตกใจว่าเขาไม่ได้ทำการบูรณะหรืออะไรนะ แต่มันเป็นความตั้งใจของทางร้านนั่นเอง

DSC_2962 DSC_2964 DSC_2968 DSC_2970 DSC_2972 DSC_2974 DSC_2982 DSC_2983

พิเศษสำหรับทุกๆ วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 13:00 – 15:00 น. ที่ 49 Garden Cafe & Bistro จะมีดนตรีสดมาบรรเลง ขับกล่อมเสียงเพลงไพเราะ ให้ลูกค้าทุกท่านได้รับฟังด้วยนะจ๊ะ

DSC01912 DSC01998 DSC02058

ในส่วนต่อมาเรามาดูเรื่องของอาหารการกินบ้างนะจ๊ะ วันนี้หลากหลายเมนูที่น้าอ้วนจะมาแนะนำให้รู้จัก ที่นี่จะเน้นเป็นอาหารแนวฟิวชั่นเป็นหลัก ดังนั้นเรื่องของหน้าตาหรือรสชาติก็จะออกแนวแปลก แต่อร่อย

เมนูแรกเป็นเมนูที่เรียกได้ว่าอินเทร็นด์มาก ๕๕๕๕ เมนูสุดฮิตในช่วงนี้คือ “เห็ดถอบ” ที่นี่ก็เลยเอามาทำเป็นเมนู Soup Consomme (109 บาท) ซุปรสชาติออกเปรี้ยว เพราะว่าเชฟเขาเคี่ยวน้ำซุปกับแหนม จึงได้รสชาติเปรี้ยวนำ พระเอกของชามก็คงหนีไม่พ้นเห็ดถอบที่เป็นเห็ดถอบหนุ่ม เนื้อด้านนอกกำลังอ่อนได้ที่กัดแล้วรู้สึกกรุบกรอบ และเนื้อด้านในยังขาวจั๊ว เพิ่มความอร่อยและประโยชน์ด้วยต้นอ่อนทานตะวัน และทองคำเปลวตกแต่งให้ดูสวยงามและหรูหราเบาๆ (เมนูนี้มีเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น ถ้าหมดแล้วหมดเลยจ้า)

DSC_2994 DSC_3042

Beef Tartare Mustard Icecream (159 บาท) เนื้อ Dry Aged 15 วัน จนได้เนื้อวัวที่มีความนุ่ม มีรสชาติและกลิ่นเป็นแบบเฉพาะตัว การทำเนื้อวัวแบบ Dry Aged จะทำให้เนื้อนุ่มเป็นพิเศษ (เนื้อแบบนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง) เมื่อได้เนื้อแล้วก็นำเอามาปรุงรสกับโคจูจัง (พริกเกาหลี) และน้ำมันงา จนได้เป็นเนื้อวัวทาร์ท่าที่นุ่มอร่อย รสชาติออกเปรี้ยว เผ็ดนิดๆ ท๊อปปิ้งด้วยไข่ออนเซ็น เพิ่มความอร่อยไปอีกแบบ

DSC_3006

Caesar Salad (119 บาท) ด้วยความเป็นอาหารฟิวชั่น จึงทำให้เมนูซีซ่าร์สลัดจานนี้หน้าตาแปลกไป  ผักสลัด อกไก่ น้ำสลัด ขนมปัง พาเมซานชีส เลมอน จะถูกจัดเสิร์ฟแบบแยกชิ้น ซึ่งปกติแล้วถ้าเราสั่งซีซ่าสลัด ทุกอย่างจะต้องถูกคลุกเคล้าเข้าด้วยกันในจาน แต่เมนูนี้เสิร์ฟมาแบบแยกชิ้น แต่วิธีการกินก็ไม่ได้แตกต่างจากซีซ่าสลัดทั่วไป แต่เราเลือกที่จะเอาอะไรจิ้มกับตัวไหนก็ได้ แล้วแต่ความชอบ อย่างน้าอ้วนเอาอกไก่จิ้มกับน้ำสลัด แล้วค่อยตามด้วยผัก หรือบางทีก็เอาผักจิ้มกับน้ำสลัดเลยแล้วกินขนมปังตาม เมนูนี้ถือเป็นเป็นเมนูที่ทำให้เราได้เลือกว่าเราจะต้องการรสชาติแบบไหนในการกินแต่ละคำ

DSC_3017 DSC_3064

ผัดไทยเกี๊ยวกรอบ (99 บาท) เมนูแบบไทย แต่ไม่ได้เสิร์ฟกับเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่เขาเอาเกี๊ยวกรอบที่เป็นแผ่นๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งที่ผัดมากับเครื่องผัดไทยที่ได้รสชาติหวานนำ เปรี้ยว เค็ม และมีเผ็ดนิดๆ ด้วยความกรอบของแผ่นเกี๊ยว เมื่อได้มากินพร้อมกับกุ้งและเครื่องผัดไทยด้วยกัน น้าอ้วนว่าเมนูนี้เข้าท่าดีนะ และจัดจานได้สวยดีด้วย

DSC_3039

มินิพิซซ่าต้มยำกุ้ง (129 บาท) เมนู Signature ของทางร้าน พิซซ่าขนาดเล็ก กินกัน 1-2 คนได้สบายๆ แป้งบางกรอบด้านบนท๊อปปิ้งด้วยหน้าพิซซ่ารสชาติต้มยำกุ้ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อกุ้ง เห็ด ชีส และซอสรสต้มยำกุ้ง ทำให้พิซซ่าชิ้นนี้เข้มข้นเต็มรสชาติจริงๆ และด้านบนก็ท๊อปปิ้งด้วยตะไคร้หั่นฝอยสำหรับใครที่ชอบก็สามารถกินเพื่อเพิ่มรสชาติความเป็นต้มยำกุ้งให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

DSC_3046 DSC_3055

ในส่วนของหวานที่นี่ก็มีของหวานหน้าตาสวย ฟิวชั่นด้วยเช่นกัน ก็จะมีทั้งสไตล์ไทยและเทศ อย่างเมนูแรก ทับทิมกรอบกับไอศครีมกะทิ (119 บาท) เม็ดทับทิมกรอบที่ด้านนอกเหนียบหนึบเนื้อสัมผัสหยุ่นๆ เคลือบเนื้อแห้วที่อยู่ด้านในกรอบอร่อย เสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมกะทิรสชาติหวานมัน และเย็น ไม่ใช่แค่ว่าจะอร่อยอย่างเดียวแต่สวยด้วย

DSC_3067

หรือจะเป็น Mango Toast (129 บาท) ฮันนี่โทสที่เฉือนเนื้อขนมปังให้เป็นชิ้นๆ เพื่อให้สะดวกกับการกินที่สะดวก ขนมปังที่ทาเนยแล้วเอาไปอบจนฉ่ำ มีความกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับซอสมะม่วง เนื้อมะม่วง เยลลี่กะทิ และไอศครีมมะม่วง รับประกันว่าใครที่ชื่นชอบในความเป็นมะม่วงหละก็ เมนูนี้ต้องฟินแน่นอน

IMG_0754

ปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มที่มีหลากหลายสไตล์ ทั้งกาแฟเช่น ลาเต้ร้อน (55 บาท) กาแฟใส่นมเสิร์ฟแบบร้อน รสชาติกลมกล่อม ได้ความเข้มของเมล็ดกาแฟและความหอมมันของนม เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรเข้มข้นแต่เน้นความนุ่มนวล

DSC_3098

Coffee Taro (85 บาท) เมนูสุดแปลก ที่พกพาสีแปลกตาอย่างสีม่วงมาด้วย กาแฟรสเผือก ผสมเฉาก๊วย และได้ความเข้มของกาแฟ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่เชื่อเลยว่าไม่เคยกินที่ไหนในเชียงใหม่แน่นอน

DSC_3091

Black Forest (90 บาท) แก้วนี้สำหรับคนที่ชอบอะไรที่เป็นโกโก้ต้องจัดเต็ม ทั้งโกโก้ปั่น วิปปิ้งครีม บราวนี่ ที่มากันแบบเต็มแก้วจุใจ รับประกันกินแล้วเคลิ้มแน่นอน

DSC_3103

และสุดท้ายเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นในวันที่แดดร้อนๆ อย่างอิตาเลียนโซดา (60 บาท) สีฟ้าสดใสของ Blue Lemon Soda รสชาติเปรี้ยวอมหวาน และเพิ่มด้วยความซ่าของโซดา ถ้าวันไหนแดดร้อนๆ ได้แบบนี้สักแก้วรับประกันเลยว่าสดชื่นแน่นอน

49 garden cafe & bistro

น้าอ้วนรีวิวเกี่ยวกับอาหารมาหลายเมนู ถ้าเราไม่พูดถึงคนทำก็คงอาจจะน้อยใจ และน้าอ้วนอยากแนะนำมาก เพราะร้านนี้เชฟไม่ธรรมดา ครั้งแรกที่น้าอ้วนได้มาเจอเชฟ คำถามแรกที่ถามคือ เชฟอายุเท่าไร? เพราะดูหน้าตาแล้วยังเด็กอยู่ (เด็กกว่าน้าอ้วนนะ ๕๕๕) เชฟหนึ่ง อายุเพียง 25 ปีเท่านั้น แต่รางวัลที่ได้รับจากการประกวดเยอะมาก เราลองมาดูประวัติคร่าวๆ กันดีกว่า

chef

ถือว่า 49 Garden Cafe & Bistro เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับในช่วงวันหยุด หรือจะเป็นวันธรรมดาที่ร่มรื่น เอาใจคนรักธรรมชาติ ด้วยหลากหลายมุมของสวนบริเวณร้านที่ให้ลูกค้าเลือกกันได้ตามอัธยาศัย หรือจะเป็นในส่วนของตัวตึกที่โดดเด่นมาก สีเหลืองเด่นสะดุดตาจริงๆ เรื่องอาหารก็ไม่น้อยหน้าใครที่ไหน ด้วยฝีมือชองเชฟที่เรียกได้ว่าถึงแม้อายุจะน้อย แต่ฝีมือนี่สุดยอดจริงๆ

12809738_207339422973708_3108506886882596165_n

ชื่อร้าน : 49 Garden Cafe & Bistro (ร่ำเปิง)
ที่อยู่ : 8/8 หมู่ที่ 5 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS :  18.776509,98.949500 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 088-2677354 , https://www.facebook.com/49gardencaferampoeng
เวลาเปิดปิด : 08:30 – 18:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/231199du-49-garden-cafe-bistro

RELATED POSTS

COMMENT

0 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save