Posted On
จะแวะดื่มกาแฟ หรือมานั่งทำงานใช้ความคิดสร้างสรรค์ Jario Coffee ร้านกาแฟบรรยากาศดี ก็พร้อมให้บริการ
แวะมาทำความรู้จักร้านกาแฟใหม่ แต่ก็คงเรียกว่าร้านกาแฟน้องใหม่ไม่ได้อย่างเต็มปาก เต็มคำ เพราะร้านนี้เขาเปิดร่วมปีแล้ว ๕๕๕๕ แต่น้าอ้วนเพิ่งมีโอกาสได้แวะเวียนมาเยี่ยมชิมก็วันนี้เอง ร้านกาแฟ JARIO COFFEE ร้านกาแฟไซส์กลาง ที่เปิดอยู่ย่านตลาดรวมโชค บอกเลยว่าย่านนี้นับวันๆ ความเจริญยิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร้านกาแฟสวยๆ บรรยากาศดี พร้อมที่จะให้น้าอ้วนมารีวิวแล้วในวันนี้
ชื่อร้าน : JARIO COFFEE
ที่อยู่ : 555/1-2 โครงการ Fifth Avenue ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.827890,99.0103713
ติดต่อ : 053-244151 , https://www.facebook.com/JarioCoffee
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/jariocoffee
JARIO COFFEE ที่น้าอ้วนจะมารีวิวในวันนี้ ตั้งอยู่ในโครงการ Fifth Avenue ถนนเชียงใหม่-พร้าว เส้นทางที่จะมาร้านง่ายๆ ก็คือถ้ามาจากตัวเมือง ก็มุ่งหน้ามายังสี่แยกตลาดรวมโชค (สี่แยกรวมโชคมีชัย) ให้มุ่งหน้าไปทางแม่โจ้นะจ๊ะ ขับเลยตลาดรวมโชคมานิดหนึ่ง จะสังเกตเห็นปั๊มน้ำมัน ปตท อยู่ด้านซ้ายมือ น้าอ้วนแนะนำให้ชิดขวา เพราะเราจะต้องกลับรถตรง U-Turn ที่อยู่เลยกับปั๊มน้ำมัน พอเรากลับรถแล้วก็พยายามชิดซ้ายไว้เลย เพราะโครงการ Fifth Avenue จะอยู่ด้านซ้ายมือของเรา และส่วนร้าน JARIO COFFEE จะอยู่ตึกที่ติดถนน ห้องริมสุด (2 คูหาใหญ่ๆ)
สำหรับสาขาที่ 2 (สาขาถนนพระปกเกล้า) ร้านจะอยู่ระหว่างประตูช้างเผือก กับโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย (เยื้องๆ กับร้านก๋วยเตี๋ยวอ๋องทิพย์รส) เปิดตั้งแต่ 09:00 – 18:00 น. ทุกวัน
แต่สำหรับวันนี้เรามาพูดถึงสาขาแรกกันเนอะ ด้วยความใหม่ของตึกแถวในโครงการนี้ และร้าน Jario Coffee มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 2 ห้อง จึงทำให้ร้านดูกว้างขวาง และการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเบจ เลยทำให้ร้านดูสว่าง พร้อมทั้งในบริเวณร้านก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้หลากหลายสไตล์ ทั้งที่แบบนั่งทำงานสบายๆ แบบโต๊ะใหญ่ หรือถ้ามากันสองคนก็เลือกนั่งแบบโต๊ะ 2 เก้าอี้ก็ได้ หรือใครอยากชิลล์ๆ เขาก็มีโต๊ะนั่งแบบบาร์ เก้าอี้สูงไว้ให้ชิลล์เช่นเดียวกัน
และที่สำคัญใครที่อยากได้ความสงบ ชั้น 2 ก็พร้อมต้อนรับเสมอ สามารถมองดูร้านจากมุมสูงก็ได้นะ
ด้วยความเป็นร้านกาแฟที่พร้อมที่จะให้บริการทั้งเครื่องดื่มและขนม (แต่อาหารไม่มีนะจ๊ะ) ที่นี่จึงมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิด และขนมหลากหลายสไตล์ไว้ให้ลูกค้าได้เลือกจับคู่กันมากมาย
Hot Latte (Single 65/ Double 80 บาท) และ Espresso Shot (Single 55/ Double 70 บาท) เมนูร้อนทั้ง ลาเต้ร้อนและ เอสเปรสโซ่ช๊อต ใครอยากดื่มความนุ่มและมันนม ก็เลือกเป็น Latte ได้ แต่ถ้าอยากได้ความเข้มข้นของกาแฟอย่างแท้จริง Espresso Shot นั่นแหละคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
Matcha Green Tea (75 บาท + วิปปิ้งครีม 15 บาท) เครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น กลิ่นอายของความเป็นเจ้าแห่งชาเขียวอบอวนอยู่เต็มแก้ว อึกแรกที่ได้ไหลเข้าปากจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นความหอมของชาเขียวและความนุ่มมันของนม หรือจะเป็น Thai Coffee (55 บาท) เมนูยอดฮิตของทางร้าน กาแฟรูปแบบไทยๆ ความเข้มกลางๆ ความหวานเบาๆ และความมันของนมผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และปิดท้ายเมนูเย็นอีกแก้วหนึ่งที่น้าอ้วนชอบก็คือ Iced Americano (55 บาท) กาแฟดำไม่ใส่น้ำเชื่อม ได้ความสดชื่นของคาเฟอีนอย่างเต็มเปี่ยม ปราศจากน้ำตาล และแคลอรี่ต่ำมากกกก (แต่สำหรับใครที่ยังคงต้องการความหวานใน Americano ทางร้านก็มีจุดบริการเติมน้ำเชื่อมได้เองเลยจ้า)
ถ้าหากเมนูเย็นธรรมดายังเรียกความสดชื่นไม่พอ ก็เสริมทัพด้วยเมนูปั่น Frappe ด้วย Blueberry Yogurt Frappe (90 บาท) เครื่องดื่มรสบลูเบอรี่ ความหวานอมเปรี้ยวของผลไม้ชนิดนี้ถูกปั่นให้ละลายพร้อมโยเกิร์ตออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งเนื้อเนียนละเอียด ได้รส ได้ชาติอย่างแท้จริง หรือใครที่ชอบความหวานผสมความเข้มข้นของช็อคโกแลตและเกล็ดช็อคโกแลต ก็คงต้องเลือก Chocolate Chip Frappe (85 บาท + วิปปิ้งครีม 15 บาท) บอกเลยว่าเมนูนี้คนที่ชอบช็อคโกแลตจะต้องประทับใจแน่นอน
Affogato (85 บาท) อยากเปลี่ยนรูปแบบการดื่มกาแฟในแบบธรรมดา ให้ล้ำกว่าเดิม น้าอ้วนแนะนำเมนูนี้เลย Affogato เมนูไอศครีมพร้อมกาแฟ Espresso Shot ที่จะได้รสชาติความหวาน หอม เย็นของไอศครีมวานิลา ราดด้วยกาแฟเข้มข้นอย่าง Espresso Shot ถือเป็นเครื่องดื่มอีกตัวหนึ่งที่หลายคนน่าจะชื่นชอบ
เมนูเครื่องดื่มของร้านนี้ลูกค้าสามารถ Customize Your Drink (หรือปรับเปลี่ยนความชอบได้) โดยการเพิ่มช็อตกาแฟ หรือ เปลี่ยนกลิ่นของน้ำเชื่อม หรือเพิ่มวิปปิ้งครีม หรือเพิ่มไอศครีม และเปลี่ยนนม (เฉพาะเมนูที่มีนมเป็นส่วนผสม) เป็นนมไขมันต่ำหรือใครที่แพ้นมวัวก็เปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลืองก็ได้ เป็นต้น
มีเครื่องดื่ม แต่ไม่มีขนม ก็คงเหมือนกินก๋วยเตี๋ยวแล้วไม่มีลูกชิ้น ๕๕๕๕ แนะนำขนมกันสัก 3-4 อย่างแล้วกันเนอะ ด้วยเมนูที่ฮิตกันเป็นอันดับต้นๆ ของร้านที่พาเหรดกันมาอย่าง Juicy Mango (90 บาท) ขนมหวานที่มีส่วนผสมของมะม่วงสุกอย่างเต็มเปี่ยม หอม หวาน มันเต็มขั้น , Espresso Brownie (50 บาท) บราวนี่เหนียวหนึบ รสกาแฟเข้มข้น ใครที่ชอบความหนึบและเข้ม ต้องเมนูนี้เลย (ไม่แพงด้วย) , White Chocolate Cranberry Scone (50 บาท) ขนมอบชิ้นใหญ่ กินคนเดียวเบาๆ ก็อิ่มได้สบายๆ สโคนที่มาแปลก หน้าตาไม่ได้เป็นลูกกลมๆ สอดแทรกด้วยแยมแครนเบอรี่และไวท์ช็อคโกแลต รสชาติแป้งนุ่มและเนียนอร่อย ปิดท้ายด้วย Apple Cinnamon Roll (50 บาท) คำแรกที่ตักเข้าปาก จะได้กลิ่นของอบเชยอย่างอบอวน เนื้อแอ๊บเปิ้ลที่เอาไปอบจนได้ความฉ่ำและหวาน ผสมผสานอยู่ในแป้งโรลได้อย่างลงตัวจริงๆ
ร้านกาแฟบรรยากาศชิลล์ จะมานั่งดื่มกาแฟโดยเฉพาะก็ได้ หรือใครจะพกโน๊ตบุ๊ค หรือเอางานมาทำก็ย่อมได้ เพราะที่นี่ทั้ง WiFi และปลั๊กไฟก็พร้อมให้บริการฟรีอยู่แล้ว ด้วยจุดเด่นของร้านที่ทำการ Blend กาแฟเอง จึงทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ซึ่งจะมีรส “เข้ม แต่ไม่ขม” กาแฟไม่ไหม้ รสชาติไม่เปรี้ยวเกินไป ไม่ขมเกินไป รสชาติหลากหลายมีมิติ แม้แต่กาแฟดำที่ไม่เติมน้ำเชื่อม ก็ยังมีรสชาติดี ใครที่อยากลองแวะไปชิม หรือหาสถานที่นั่งทำงานและได้ผ่านไปแถวตลาดรวมโชค ก็อย่าลืมแวะเยี่ยมเยือน Jario Coffee ได้นะจ๊ะ เปิดทุกวัน 08:30 – 17:30 น.
Your Everyday Happiness
RELATED POSTS
-
ไม่สด ไม่เสิร์ฟ สดเหมือนกินที่ทะเล พร้อมบริการส่งถึงบ้านที่ แม่เพ็ญ ซีฟู๊ด เดลิเวอรี่
-
Cafe’ Mini ร้านอาหารหลากสไตล์ ที่ความอร่อยไม่ Mini อย่างชื่อ
-
สุขใจไหนไม่เท่ากับกินหมูกระทะตอนเย็น พร้อมคุณภาพคับแก้ว น้ำจิ้มสูตรเด็ด บรรยากาศดี ๆ ที่ Homie หมูกระทะ หางดง
-
ลำดีตี้ขัวแดง Original Northern Style เชียงใหม่
-
ถ้าอยากกินไก่ทอด หรือหมึกทอดยักษ์ ไม่ต้องไปถึงกรุงเทพ Chicken Man มาลินพลาซ่า เสิร์ฟความอร่อยถึงมือ
-
เย็นตาโฟ มหาชัย เชียงใหม่ ความสดสั่งตรงจากมหาชัย
-
ปิ้งย่างสไตล์ยากินิกุ คนกินจุต้องร้องว้าว ในราคาโดนๆ เริ่มต้น 333 บาท ที่ Kin House
COMMENT