FOLLOW US ON SOCIAL

Posted On

10
January
2020

ญี่ปุ่นเว่อร์! ไม่ต้องตี๋ตั๋วไปไกลแค่เชียงใหม่ก็เสพความเป็นญี่ปุ่นได้เต็มอิ่มที่ Ei-Shin Bar & Cafe

ต่อจากนี้ไป ถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วส่งภาพมาอวดน้าอ้วนหละก็ บอกเลยว่า … เชิดใส่ เพราะเดี๋ยวนี้ถ้าอยากมี “ความญี่ปุ่น” ก็ไม่ต้องบินไปไกล เสียค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักกันแล้ว … หาเวลามาสัก 2-3 ชั่วโมงมาชิลล์ ๆ ที่ร้าน Ei-Shin Bar & Cafe (อิชิน บาร์ แอนด์ คาเฟ่) ที่เชียงใหม่นี่ก็ได้ บอกเลยว่าร้านนี้ถ้าได้เดินเข้ามาแล้ว มันญี่ปุ่นเว่อร์!

Ei-Shin Bar & Cafe เชียงใหม่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเลย หาได้ง่ายสุด ๆ แต่ถ้าบอกชื่อถนนไป หลายคนก็อาจจะไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไร แต่ถ้าบอกว่าเป็นถนนเส้นหลังซีเอ็มคอมพิวเตอร์ ก่อนถึงสี่แยกข่วงสิงห์ บอกแค่นี้แหละจะต้องร้องอ๋อกันเลยทีเดียว เอาง่าย ๆ ถ้ามาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ให้มุ่งหน้าไปทางสี่แยกข่วงสิงห์ ก่อนถึงสี่แยกจะมีซอยอยู่ด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปเลย ขับไปอีกนิดเดียว สังเกตขวามือก็จะเห็นร้านตั้งอยู่ มีเสาโทริอิสีแดง ๆ เด่นเป็นสง่า

สำหรับที่จอดรถ ไม่ต้องกังวล เพราะทางร้านได้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกไว้ให้แล้ว โดยลูกค้าที่มาใช้บริการ สามารถจอดรถได้ที่ Kao Hotel ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านได้ฟรี ที่จอดรถกว้างขวาง รวม ๆ แล้วจอดรถได้เป็นหลายสิบคันเลยทีเดียว แต่ถ้าที่จอดรถหน้าโรงแรมเต็ม ก็สามารถจอดข้างทางได้ เพราะถนนเส้นนี้กว้างพอสมควรเลย จอดชิด ๆ ขอบทางหน่อยนะจ๊ะ เพื่อความปลอดภัย

เมื่อเดินเข้ามาร้านปุ๊บ … น้าอ้วนเชื่อว่าหลายคนต้องอุทานในใจ ….​ OMG, แม่เจ้าโว้ย หรือ อะไรเนี่ย? ประมาณนี้แน่นอน เพราะว่าทุกตารางเมตรของที่นี่ มันญี่ปุ่นเว่อร์ (คุยกันเล่น ๆ ถ้าวันไหนปิดประตูทางเข้านะ แล้วแอบเนียนหลอกเพื่อนว่าฉันมาเที่ยวญี่ปุ่น Video Call ให้เพื่อนดูรอบ ๆ บอกเลยเพื่อนเชื่อสนิท)

ทั้งสวนญี่ปุ่น บ่อปลาคราฟ ศาลาสำหรับนั่งกินข้าวแบบนั่งเก้าอี้ หรือจะนั่งพื้นมีเบาะแบบญี่ปุ่น แต่ถ้าใครอยากนั่งชิลล์ ๆ อากาศเย็น ๆ กับห้องแอร์ ด้านในก็ยังมีโซนร้านกาแฟ และร้านอาหารญี่ปุ่นแบบห้องแอร์บริการด้วยเช่นกัน

แกงกะหรี่หมูทอด (158 บาท) ข้าวแกงกะหรี่เสิร์ฟมาจานใหญ่ ๆ น้ำแกงหอมกรุ่นกลิ่นเครื่องเทศเบา ๆ แบบข้น ๆ พร้อมผักอย่างมันฝรั่งและแครอทที่ตุ๋นจนเปื่อย จุดเด่นของจานนี้ถ้ามองด้วยตาอาจจะไม่เห็น เพราะหมูทอดจะทบกันถึง 2 ชั้น (ถ้ามองผิวเผินอาจจะคิดว่ามีแค่ชั้นเดียว) แต่บอกเลยว่าทั้งได้เยอะ และยังกรอบนอกนุ่มใน อิ่มกันแบบจุก ๆ ไปเลย

ข้าวหน้าปลาดิบหั่นเต๋า (488 บาท) ทั้งหน้าตาและสีสันบอกเลยว่ายั่วยวนน้ำลายมาก จากที่น้าอ้วนได้ลองขุดคุ้ยดูปรากฎว่าข้าวมีเพียงแค่ครึ่งชามเท่านั้น ส่วนที่พูน ๆ นั่นมีทั้งทูน่า, แซลมอน, ปูอัด, ไข่หวาน, ไข่ปลาแซลมอน, อโวคาโด้, หมึกยักษ์ กันมาแบบเต็มที่ เรียกได้ว่าใครที่ชอบกินปลาดิบ บอกเลยว่าชามนี้คุ้มสุด ๆ

ปลาหิมะย่างเกลือ (588 บาท) เป็นอีกหนึ่งปลาที่ต้องบอกว่าเป็นสุดยอดของปลา ปลาหิมะ หรือบางคนเรียกปลาค็อด เป็นปลาที่เนื้อสีขาว สวย รสชาติหวาน มีไขมันแทรกนิด ๆ หลายคนชอบเอาไปนึ่งซีอิ๊ว หรือเอามาย่างเกลือแบบนี้ ก่อนกินบีบมะนาวซะหน่อย จิ้มเกลือ โอ้ยยย ฟิน

ข้าวห่ออโวคาโด้ (208 บาท) เสิร์ฟกันมาแบบโรลยาว ๆ หลายคำ ถาดนี้แบ่งกันกินหลายคนได้สบาย ด้านในก็จะมีไส้เป็นไข่หวาน ปูอัด แตงกวาและแผ่นสาหร่าย ห่อด้วยข้าวญี่ปุ่น ด้านบนท็อปด้วยอโวคาโด้สไลซ์ แต้มด้วยมายองเนส โรยด้วยไข่ปลาแซลมอน อื้อหือออ อร่อยไม่พอแล้วยังจ้ดเต็มด้วยนะเนี่ย

ชุดปลาดิบรวมใหญ่ (888 บาท) จัดมาได้แบบอลังการงานสร้างมาก เซ็ทปลาดิบที่บอกเลยว่าครบครัน ทั้งแซลมอล, อากามิ (ทูน่า), ฮอกกิไก (หอยปีกนก), ทาโกะ (หมึกยักษ์), โฮตาเตะ (หอยเชลล์ฮอกไกโด), อิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน), คิเนะซาบะ (ซาบะดอง) และ คานิคามะ (ปูอัด) ชิมทุกอย่าง บอกเลยว่าสดมาก ใครที่เป็นคอปลาดิบเซ็ทนี้คุ้ม ถ้าร้านอื่นบอกเลยจัดมาอย่างอลังการแบบนี้ ต้องมีหลักพันแน่นอน

สำหรับสถานที่แบบนี้มันควรเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการมาเป็นคู่ หรือพาครอบครัวมาเที่ยว เชื่อว่าบางบ้านก็อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นกันแบบครอบครัว แต่บางครั้งเรื่องค่าใช้จ่ายมันก็ถ้าไปกันหมดบ้านมันก็สูงอยู่ ดังนั้นการได้มาเที่ยวสถานที่แบบนี้มันก็เหมือนได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นเรื่องอาหารการกินทางร้านก็เลยมีเมนูสำหรับคนไทย ที่อาจจะเหมาะสำหรับผู้ใหญ่หน่อยที่อาจจะไม่ค่อยอินกับอาหารญี่ปุ่นเท่าไร ดังนั้นอาหารไทยนี่แหละน่าจะถูกปาก

ปลากะพงทอดน้ำปลา (328 บาท) ปลากะพงไซส์ขนาดพอดี ผ่ากลางตัว เอาไปชุบแป้งไม่หนามาก ทอดจนด้านนอกกรอบและด้านในยังคงฉ่ำ ราดน้ำปลาหวานเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น เสิร์ฟพร้อมกับน้ำยำมะม่วงรสเด็ด เปรี้ยวอมหวาน แต่ถ้าใครยังรู้สึกไม่สะใจ ทางร้านก็มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดมาให้ด้วย

ยำปลาทับทิมลุยสวน (258 บาท) เมนูปลาขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่กินแล้วมีประโยชน์ ยิ่งเอามาหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำ แล้วเอามาคลุกเคล้ากับสมุนไพรต่าง ๆ ปรุงรสให้จัดจ้าน เปรี้ยวกลมกล่อม ยิ่งทำให้เมนูนี้กลายเป็นเมนูที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์

สลัดผลไม้กุ้งสด (188 บาท) โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบกินผลไม้อยู่แล้ว ยิ่งผลไม้เมืองร้อน (Tropical Fruit) ยิ่งเป็นอะไรที่ชอบมาก เพราะเป็นผลไม้ที่ให้ความสดชื่น ดังนั้นสลัดผลไม้ถ้วยนี้ที่มีทั้ง แคนตาลูป, แตงโม​, องุ่น, กีวี่, แก้วมังกร ราดน้ำสลัดมายองเนสและท็อปปิ้งด้วยวิปปิ้งครีม พร้อมกับกุ้งสดที่คลุกเคล้ากันมา จึงเป็นเมนูที่กินแล้วสดชื่นและอร่อยด้วย

แซลมอนผัดพริกหม่าล่า (128 บาท) สำหรับเมนูนี้แนะนำเลยว่าถ้าใครสั่งมาแล้ว ควรจะมีเครื่องดื่มเย็น ๆ ติดมาสักแก้ว จะเป็นการดีมาก หรือจะกินกับข้าวเปล่าก็จะเข้ากันดี เพราะเนื้อปลาแซลมอนที่สับละเอียด เอาไปผัดกับพริกหม่าล่าจนได้รสชาติจัดจ้าน เสิร์ฟพร้อมกับหนังปลาแซลมอนทอดกรอบเพิ่มมิติในการกินที่เข้ากันอย่างลงตัว

ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว (288 บาท) ซี่โครงหมูที่เอาไปอบและทาด้วยซอสบาร์บีคิวที่ได้ทั้งกลิ่นสโมค เปรี้ยวอมหวาน และร่อนเป็นอย่างดี เมนูนี้ไม่แนะนำให้กินเปล่า ๆ จะกินกับข้าวร้อน ๆ หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ จะเข้ากันได้ดีมาก

ร้านอาหารแบบนี้จะมีแค่อาหารอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เครื่องดื่มและขนมต้องตามมาสิ ใช่มะ? … อย่างแรกเริ่มกันเลยที่ ซากุระไดฟุกุ (88 บาท) และ ซากุระเย็น (58 บาท) ไดฟุกุแสนอร่อย แป้งเหนียวหนึบไส้ถั่วแดง ห่อด้วยแป้งสีชมพูสวยงาม และใบซากุระดองด้วย กินคู่กับซากุระเย็นเครื่องดื่ม Signature ของทางร้าน หอม หวาน เย็น ชื่นใจ

บลูเบอร์รี่ชีสพาย (88 บาท) และ ม็อคค่าร้อน (58 บาท) บางคนอาจจะอิ่มข้าวมาจากที่อื่นแล้ว ก็อาจจะมาหากาแฟสักแก้ว ขนมสักชิ้นมาเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาชิลล์ ๆ ยามบ่ายแบบนี้บ้าง บลูเบอร์รี่ชีสพายเปรี้ยวอมหวาน พร้อมทั้งเนื้อชีสที่นุ่มเนียนและพายกรุบกรอบด้านล่าง ดื่มคู่กับม็อคค่าร้อนที่ได้กลิ่นของทั้งกาแฟ และความเข้มของช็อคโกแลตในแก้วเดียวกัน

หรือถ้าวันไหนอากาศร้อน ๆ จริง ๆ คากิโกริมะม่วง (168 บาท) หรือน้ำแข็งใสเนื้อเนียนละเอียดรสนมในแบบญี่ปุ่นที่เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อมะม่วงที่หวาน หอม อร่อย ก็ช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี

ปิดท้ายความอร่อยในแบบญี่ปุ่นด้วย ไอศกรีมชาเขียวมัชฉะ (88 บาท) ความเป็นชาเขียวโดดเด่นมาก ไอศกรีมสกู๊ปใหญ่ เนื้อแน่น เข้มข้นอร่อยท้าให้ลอง

เอาจริง ๆ นะ ตอนแรกที่เดินเข้าร้านไป แอบคิดในใจลงทุนเยอะขนาดนี้ ราคาต้องแรงแน่นอน ๕๕๕๕ แต่พอได้ลองชิมอาหาร ได้เห็นเมนูราคาก็รู้สึกว่า เออ … ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ราคาแบบนี้จ่ายได้สบาย ๆ สำหรับบรรยากาศชิลล์ที่แบบว่าญี่ปุ่นเว่อร์ และบริการที่ต้องบอกว่าเอาใจใส่สุด ๆ แบบนี้ จากประสบการณ์ที่ได้ผ่านร้านอาหารต่าง ๆ มา ถ้าจะพูดถึงเรื่องของบรรยากาศการตกแต่งร้านหละก็ ร้านนี้แหละญี่ปุ่นที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมาเลยทีเดียว

สำหรับใครอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น (แบบประหยัดสุด ๆ จนกระทู้พันทิปต้องอาย) อย่าลืมแวะมาที่นี่นะจ๊ะ Ei-Shin Bar & Cafe

ร้าน : Ei-Shin Bar & Cafe
ที่อยู่ : 2 ถนนศิรินธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.810506, 98.983888
ติดต่อ : 094-6393888 , https://www.facebook.com/eishinbarandcafe
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. – 23:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/459515nr-ei-shin-bar-cafe

RELATED POSTS

COMMENT

0 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save