แวะอิ่มกับอาหารอิตาเลียนแนวคลาสสิกแต่หน้าตาสมัยใหม่ ในบรรยากาศเรือนกระจกกลางธรรมชาติที่ Gioia Italiano Ristorante

By น้าอ้วน 1 year ago

วันนี้จะพาไปเข้าป่า ไปกินอาหารอิตาเลียนในบรรยากาศเหมือนได้อยู่ในป่า ที่ที่มีแต่ต้นไม้เขียวขจี สูงใหญ่ล้อมรอบ และอยู่ในห้องเรือนกระจก ร้านอาหารที่เชื่อว่าถ้าใครชอบธรรมชาติ ชอบความเป็น Green House ก็น่าจะประทับใจอยู่แหละ วันนี้เราไม่ได้พาไปไหนไกล แวะเวียนมาแค่หางดงเท่านี้เอง พามารู้จักกับร้านอาหารอิตาเลียนแห่งหนึ่งที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเชียงใหม่กับร้าน Gioia Italiano Ristorante ซึ่งเป็นภาษาอิตาเลียน ออกเสียงว่า จอยญ่า

ร้านอาหารอิตาเลียน จอยญ่า ตั้งอยู่ในโรงแรม North Hill City Resort โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในย่านอำเภอหางดง ทางมาโรงแรมนี้ง่าย ๆ เลยคือสามารถเข้ามาจากทางหมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ โครงการ 9 ถนนเชียงใหม่-ฮอดนั่นเอง สามารถจอดรถในบริการ Parking ของโรงแรม แล้วเดินตรงไปที่ห้องอาหารได้เลย

บรรยากาศ 3 สไตล์ที่จัดไว้เอาใจของลูกค้าหลาย ๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นโซนของห้องอาหารเอง ที่รองรับลูกค้าได้นับร้อยท่าน ในบรรยากาศที่สะดวกสบาย หรือใครที่ชอบธรรมชาติ โซนกลางแจ้ง ที่อยู่ใต้ร่มไม้สีเขียวขจี ซึ่งโซนนี้น้าอ้วนแนะนำว่าช่วงเย็น ๆ หรือหัวค่ำจะฟินมาก แต่ถ้าใครชอบในโซนห้องกระจก Glass House ก็พร้อมให้บริการ เหมือนเราได้อยู่ในเทพนิยาย อยู่ในกระท่อมที่เป็นเรือนกระจก ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เขียวขจี

Classic Bruschetta (95 บาท) บรูสเค็ตต้าคลาสิก เมนูเรียกน้ำย่อยสำหรับช่วงเวลาที่รอจานอื่น ๆ มาเสิร์ฟ บรูสเค็ตต้าคือขนมปังที่เอาวัตถุดิบต่าง ๆ มาวางเป็นหน้าต่าง ๆ อย่างจานนี้เป็นหน้าซัลซ่ามะเขือเทศโรมาโน่ มีหอมแดง มีใบโหระพา และน้ำมันมะกอก กินเพลิน ๆ เรียกน้ำย่อยได้อย่างดี

Calamari (275 บาท) อีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยสุดฮิตของอิตาเลียน หลาย ๆ ที่น้าอ้วนจะเห็นเป็นหมึกชุบแป้งทอดบาง ๆ แต่ที่นี่จะเน้นเป็นคล้าย ๆ เทมปุระหมึกและมีซูกินิด้วย เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศเผ็ด ที่กินพร้อมกันแล้วรู้สึกกระตุ้นต่อมรับรสได้เป็นอย่างดี

Gioia Salad (235 บาท) เอาใจคนรักสุขภาพ แต่ถ้ามองดี ๆ เอ๊ะอาจจะรู้สึกว่าออกไปทางแนวของสลัดสไตล์ญี่ปุ่น แต่เมื่อได้กินแล้วจะรู้สึกสดชื่นและอัดแน่นด้วยวัตถุดิบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผักสลัดรวม ที่โรยด้วยสาหร่าย ไข่กุ้ง น้ำสลัดงาขิง และวาซาบิมายองเนส

Cioppino (335 บาท) เอาซุปมาฝากกันบ้าง เอาใจคนที่รักทะเล กับวัตถุดิบอย่างหอยทะเลรวมในซอสมะเขือเทศเข้มข้น รสชาติถึงเครื่อง โรยหน้าด้วยเกรโมลาต้าเลมอนโหระพา เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังเซียบัตต้า

Penne with Italian Sausage and Mushroom (290 บาท) เส้นพาสต้าแบบเพนเน่ที่เอาไปลวกให้สุกในสไตล์อิตาเลียนคือ อัลเดนเต้ (ซึ่งคนไทยอาจจะไม่คุ้นสักเท่าไร เนื้อสัมผัสมันจะกรึบ ๆ ตรงกลาง) เอามาผัดกับซอส ใส่ไส้กรอกอิตาเลียนและเห็ดลงไปเพื่อเพิ่มความอร่อย

Crab & Cheese Cannelloni (315 บาท) คาเนลโลนี่เป็นชื่อของพาสต้าชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นหลอด เชฟเอาเนื้อปูสอดเป็นไส้ แล้วเอาไปอบ ราดมอสซาเรลล่าชีสและครีมพาร์เมซานไว้ข้างบน จนได้เป็นเมนูที่หอม ฉ่ำ นุ่มและละมุนลิ้นมาก (เห็นจานเลอะ ๆ นั่นเป็นสไตล์ของเขานะ เชฟไม่ได้ลืมทำความสะอาดนะ)

Pork Chop (395 บาท) หลายคนคงคุ้นเคยกับพอร์คชอปที่เป็นเนื้อหมูเป็นชิ้นติดกระดูกแล้วเอาไปย่างไฟ ทาซอสต่าง ๆ แต่ในสไตล์ของอิตาเลียนจะแตกต่าง เพราะเขาจะเอาเนื้อหมูคุโรบูตะไปชุบเกล็ดขนมปัง โดยไม่มีกระดูกมาให้กวนใจ เสิร์ฟพร้อมพาสต้าเส้นสดและซอสมะเขือเทศโฮมเมด

Chicken Parmigiana (295 บาท) สเต๊กไก่พาร์มิจาน่า ไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด ออนท็อปด้วยโบรโซโลนชีส แฮมรมควัน และมอสซาเรล่าชีส เพิ่มความเข้นข้นด้วยการราดด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น

Veal Ossobuco (795 บาท) ออสโซบูโกเนื้อลูกวัว ใครชอบกินเนื้อ จานนี้น่าจะเป็นพระเอกในดวงใจได้ไม่น้อย เนื้อส่วนน่องลูกวัวติดกระดูกตุ๋นอบไฟอ่อน ค่อย ๆ ให้สุกโดยเชฟจะใส่ Celery หรือขึ้นฉ่ายฝรั่ง มะเขือเทศ แครอท และเกล็ดขนมปังปรุงรสด้วยสมุนไพรให้รสชาติกลมกล่อม เนื้อสัมผัสที่ได้จะนุ่ม แทบจะละลายในปากเลยทีเดียว

Pizza Babylon (335 บาท) พิซซ่าบาบิลอน ถาดใหญ่ สะใจ หนึ่งในเมนู Signature ของทางร้าน ซึ่งเชฟจัดเต็มด้วย ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ไข่ต้ม แฮม เบคอน พริกไทย หัวหอม และเห็ด เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพิซซ่าแปลกตา (ซึ่งไม่เคยเห็นไข่ต้มมาเป็นหน้าพิซซ่า) และเครื่องแน่นเอาเรื่อง

Tiramisu (285 บาท) ใครชอบความเข้มข้น ใครชอบความฉ่ำของเลดี้ฟิงเกอร์ที่ฉ่ำไปด้วยน้ำกาแฟและรัม ความนุ่มละมุนของมัสคาโปนชีส ต้องบอกเลยว่าทีรามิสุถ้วยนี้ มันคือสุดยอด

มาดูในส่วนของเครื่องดื่มกันบ้าง หลากหลายสไตล์ ทั้งที่เป็นม็อคเทล หรือน้ำผลไม้ต่าง ๆ ที่นี่ก็จัดเต็ม เริ่มจากเครื่องสดชื่น หวาน ๆ ได้กลิ่นสมุนไพรอย่าง North Hill Virgin Mojito (150 บาท) ส่วนผสมทั้งมะนาว สาระแหน่ น้ำเชื่อม โซดา กระเจี๊ยบ

Strawberry Smoothie (160 บาท) เมนูยอดฮิตสำหรับสายหวาน สีชมพูสดใส หวานอมเปรี้ยว สดชื่นอร่อยด้วย สตรอว์เบอร์รี โยเกิร์ต นม และน้ำเชื่อม

Hang Over (160 บาท) เพิ่มความสดชื่นให้ยามเช้า หรือจะยามไหนก็ได้ไม่ว่ากัน กับเครื่องดื่มรสชาติเปรี้ยวอมหวานสดชื่น ซึ่งมีทั้งสับปะรด กล้วย นม และน้ำเชื่อม

อีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนที่อาจจะไม่ได้อยู่ในย่านตัวเมือง แต่ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ลองแวะเวียนไปได้ ไปเที่ยว เดินเล่นที่ North Hill City Resort เชื่อว่าโรงแรมนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นหู หรือยังไม่เคยไปแน่นอน หาโอกาสดี ๆ ลองแวะมาชิมอาหารที่ Gioia Italiano Ristorante ดูสักครั้ง บรรยากาศดี ๆ ในเรือนกระจกที่อยู่กลางธรรมชาติที่สีเขียวห้อมล้อม มันก็ฟินดีนะ