Posted On
สวรรค์แห่งการพักผ่อน ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ เสียงน้ำตก ลมพัดเย็น ที่ The ForRest แม่กำปอง
ย่างเข้าฤดูฝนกันแล้ว ต้นไม้ใบหญ้าเวลาโดนน้ำมันก็จะชุ่มฉ่ำ เขียวชอุ่ม กันหน่อยๆ ดังนั้นที่ไหนที่มีต้นไม้เยอะๆ หรือเป็นป่าหน่อยๆ ก็คงกลายเป็นสถานที่ยอดฮิตแน่นอน และแม่กำปอง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถ้าใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติในรูปแบบของหมู่บ้านที่ Slow Life ชิลล์ๆ อยู่กับธรรมชาติได้อย่างลงตัว คงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวคงไม่พลาดกันแน่นอน ดังนั้นวันนี้น้าอ้วนจึงมีร้านชิลล์ๆ ที่อยากจะบอกต่อ เป็นร้านที่แอบอิงและใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือนนี้เอง กับร้านชื่อดีๆ ความหมายเก๋ๆ อย่าง The ForRest
The ForRest เป็นคำพ้องเสียง ความหมายแรกคือแปลว่า “ป่า” ซึ่งถ้าใครได้มาก็จะเห็นว่าที่นี่แอบอิง ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ แต่ก็ไม่ได้ลุกล้ำธรรมชาติแต่อย่างใด จะมองเห็นว่าสายน้ำตกที่ไหลผ่านร้านไม่มีสิ่งก่อสร้างที่ยื่นลงไป หรือมีอะไรที่สร้างขึ้นให้ขัดหูขัดตาเลย และอีกหนึ่งความหมายก็คือ “สำหรับพักผ่อน” ใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องการการพักผ่อน ที่นี่แหละคืออีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
การเดินทางมาที่ร้านก็แสนจะง่าย ก็ขับรถมาทางถนนเส้นแม่ออน ขับมาเรื่อยๆ น้าอ้วนขอใช้ อบต. ห้วยแก้ว เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางละกัน ขับรถต่อมาอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร (หรือขับมาตามป้ายบอกทาง ที่มีอยู่ตลอดเส้นทาง) ก็จะถึงร้านแล้ว สังเกตง่ายๆ ร้านที่มีลานจอดรถใหญ่ๆ ไม่ต้องไปเบียดเสียด หรือแย่งที่จอดรถกับใคร (เพราะเรื่องที่จอดรถเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่สำหรับใครที่ขับรถยนต์ไปเที่ยวแม่กำปอง)
เมื่อจอดรถแล้วก็เดินเข้ามาผ่านสนามหญ้าเขียวๆ ต้นไม้เยอะๆ โดยเฉพาะต้นลิ้นจี่ และชมพู่ สำหรับตัวน้าอ้วนแล้ว น้าอ้วนชอบโซนริมระเบียง จะเป็นโซนที่นั่งเรียงหน้ากระดาน หันหน้าเข้าแนวป่า ด้านล่างก็จะมีน้ำตกให้นั่งเพลินๆ ช่วงเช้าๆ แดดจะร่มมาก และมีลมพัด แต่พอบ่ายๆ มาก็อาจจะมีแดดสาดแสงเข้ามา จึงแนะนำให้นั่งโซนด้านล่างที่จะติดกับลำธารที่เป็นน้ำตก บรรยากาศสบายๆ ใครชอบโซนไหนลองเลือกกันได้นะจ๊ะ
ปอลอ น้ำตกสามารถลงไปเล่นได้ น้ำจะใสและเย็นมาก (แต่เผอิญวันที่น้าอ้วนแวะไปที่ร้าน คืนก่อนหน้าฝนตก เลยทำให้มีน้ำจากภูเขาไหลลงมา สีเลยขุ่นหน่อยๆ แต่วันปกติสีใสแจ๋วเลย)
เมื่อมีน้ำตก ในใจน้าอ้วนนึกถึงสมัยก่อนที่ตอนเด็กๆ ครอบครัวพากันไปเที่ยวน้ำตก และเมนูที่ขาดไม่ได้ที่ต้องสั่ง หรือห่อไปด้วยก็คือ ส้มตำและไก่ย่าง มาที่นี่ก็ไม่นึกว่าจะเจอ ๕๕๕๕ ส้มตำลิ้นจี่ (60 บาท) ต้องบอกก่อนว่ามีเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ช่วงที่เป็นฤดูของลิ้นจี่ ลิ้นจี่ที่อยู่ตรงลานจอดรถนั่นแหละ ปลูกกันแบบธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี ดังนั้นจึงมั่นใจว่าปลอดภัย เสิร์ฟกันมาแบบตำไทยครบรส เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน สิ่งหนึ่งที่น้าอ้วนชอบคือมะละกอ เขาใช้วิธีเอามีดสับๆ ดังนั้นเส้นจะไม่เท่ากัน ทำให้รสสัมผัสจึงมีหลายมิติดี และไก่ย่างอบน้ำผึ้ง (120 บาท) เมื่อส้มตำพร้อมจะขาดไก่ย่างได้ไงหละเนาะ แว๊บแรกเราจะได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศที่หมักกับไก่ เมื่อพอเข้าปากจะได้สัมผัสถึงความนุ่ม (แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ) และหวานหอมเบาๆ ของน้ำผึ้ง เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของทางร้าน จะกินเปล่าๆ หรือพร้อมน้ำจิ้ม มันก็ฟินไปคนละแบบ
ซาโมซ่าร์ (60 บาท) เมนูทานเล่นสำหรับวันไหนที่ลูกค้าอาจจะเยอะและรออาหาร กล้วยฉ่ำๆ ที่ห่อด้วยแผ่นแป้งแล้วเอาไปทอดจนแป้งสุกกรอบ แต่กล้วยข้างในยิ่งเวลาโดนความร้อนความฉ่ำและหวานจะเพิ่มขึ้น เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมเย็นๆ เพิ่มความฟินด้วยวิปครีมอีก เมนูง่ายๆ ทานเล่นๆ ฆ่าเวลาสำหรับจัดหนัก
สปาเก็ตตีคาร์โบนารา (99 บาท) อิ่มแบบเมนูเส้นๆ กับเส้นสปาเก็ตตีที่ลวกสุกตามแบบที่คนไทยคุ้นเคย คลุกเคล้ากับครีมซอสต่างๆ พร้อมหอมใหญ่ที่ผัดจนได้ความหวานออกมา และแฮม จนได้เป็นสปาเก็ตตีคาร์โบนาราที่หอม มัน หวานและกลมกล่อม พร้อมเสิร์ฟ
ปลาทอดและมันฝรั่ง (199 บาท) หรือ Fish & Chip นั่นเอง อาหารประจำชาติของเมืองผู้ดีอังกฤษเขาหละ ปลาดอลลีชิ้นใหญ่ๆ ชุบเกล็ดขนมปังทอดจนด้านนอกกรอบ ด้านในสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอด และครีมสลัด เมื่อเอาเนื้อปลาจิ้มลงไปแล้ว (หรือจะราดก็ได้) จะได้ความกรอบ นุ่มและเปรี้ยวอมหวานละมุนพร้อมกัน
สลัดผัก (99 บาท) สายสุขภาพไม่ควรพลาดเมนูนี้ ผักสลัดนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, แคร์รอท, มะเขือเทศ และผักกาดแก้ว เสิร์ฟพร้อมครีมสลัดรสชาติหวานอมเปรี้ยวและมัน เมนูอิ่มสบายๆ และสุขภาพดี
พูดถึงเมนูดับหิวกันไปแล้ว เราก็ต้องมาดูเมนูสำหรับดับความกระหายกันบ้าง ส่วนตัวแล้วน้าอ้วนชอบหลายๆ แก้วเลย อย่างแรกที่ดื่มแล้วรู้สึกว่า เออ… สดชื่นดี เปรี้ยวอมหวาน ซ่าาาาา อย่าง Strawberry Mojito (75 บาท)
มันม่วงปั่น (95 บาท) และ มะม่วงปั่น (95 บาท) บอกตามตรงว่ามันม่วงเคยกิน แต่ไม่เคยกินแบบเอามาเป็นเครื่องดื่มปั่นๆ แบบนี้ แต่เมื่อได้ชิมแล้วก็อร่อยดีไปอีกแบบ รวมถึงมะม่วงที่หอม หวาน เกล็ดน้ำแข็งเนียนละเอียด สดชื่นมาก
และเครื่องดื่มประเภทกาแฟอย่าง ลาเต้ร้อน (55 บาท), เอสเปรสโซ่เย็น (75 บาท) และ ม็อคค่าร้อน (65 บาท) กาแฟหอมๆ เคล้ากับนมที่หวานมัน กลายเป็นเมนูเครื่องดื่มกาแฟอร่อยๆ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความสดชื่น
ร้านดีๆ บรรยากาศชิลล์ๆ และฟินๆ สำหรับใครที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง The ForRest ร้านกาแฟที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี น้ำตกสายเล็กๆ ที่ไหลมาจากภูเขา ที่สามารถลงเล่นได้ (ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไม่ได้ไหลมาจากต้นน้ำอย่างแม่กำปอง ดังนั้นรับประกันความสะอาด เพราะไม่ได้เป็นปลายน้ำ) สถานที่นี้จึงเหมาะสำหรับใครที่อยากหนีกรุงมาหาธรรมชาติ ในวันหยุดที่ใครกำลังโหยหาความสงบและชาร์จพลังให้กับตัวเอง
ชื่อร้าน : The ForRest (Peace Forest)
พิกัด GPS : 18.864110, 99.304392
ติดต่อ : 095-1477779 , 061-323-2647 , https://www.facebook.com/TheForRestKampong
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 น. ถึง 18:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/329478sw-forrest
RELATED POSTS
-
สวยงาม เงียบสงบ ร่มรื่น ใต้ร่มไม้และสถาปัตยกรรมในแบบไทยผสมผสาน อาหารฟิวชั่นในรสชาติแบบไทยแท้ ที่ Sireeampan Boutique Resort & Spa
-
มื้อพิเศษ โอกาสพิเศษ กับคนพิเศษ อิ่มอร่อยกับเชฟนิว และบรรยากาศสุดชิลสดชื่นที่ หลังบ้านเชฟ Chef’s House
-
ล็อคคิวให้ว่างทุกเย็นวันพุธ จัดหนักกับบุฟเฟ่ต์เอาใจคนรักเนื้อและสลัดที่ Nimman Bar & Grill
-
นั่งรับลมเย็นสบาย กับวิวทะเลสาบและดอยสุเทพ ร้านน่านั่งจะเป็นมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็นก็ฟินตลอดที่ Vento Bar
-
พาเหรดขบวนผลไม้ ใส่กันแบบจุใจ สาวกขนมหวานที่รักการทานผลไม้ต้องไม่พลาด FRUITS MANIA
-
สายทำขนมต้องมีเฮ สายดื่มกาแฟชิลล์ต้องร้องว้าว เพราะมาที่เดียวครบทั้งทำและชิลล์ที่ White Home Cafe
-
มื้อเย็นสุดแสนอร่อยและสวยงามที่โรงแรม 137 Pillars House
COMMENT