จะมากินเอง หรือพาแขกมาเลี้ยงรับรองกับอาหารเมืองเหนือหลากหลายเมนู หรูหราแต่ราคาเข้าถึงไม่ยากได้ที่ ครัวพะยอม

เคยมีเหตุการณ์ประมาณว่า มีอาคันตุกะจากแดนไกลมาเยี่ยมเยือนเรา แล้วเราในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านก็ต้องพาแขกเหรื่อไปเลี้ยงรับรอง พาไปกินข้าว และแน่นอนที่สุดเมื่อมาถึงเชียงใหม่ก็คงต้องพามากินอาหารเหนือ เพื่อให้แขกได้สัมผัสความเป็นเชียงใหม่ที่แท้จริง หลายครั้งที่นั่งคิดว่าเราจะพาไปไหนดีนะ เพื่อรับรองและทำให้รู้สึกว่าไม่ขายหน้า สมฐานะ ดูดี บางร้านอาหารอร่อยแต่บรรยากาศไม่ค่อยได้ ๕๕๕๕ ดังนั้นวันนี้น้าอ้วนจึงมีร้านอาหารเหนือร้านหนึ่งที่เรียกได้ว่าสวยงาม หรูหรา รสชาติดี ราคาไม่สูงมาแนะนำ เผื่อจะได้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการรับรอง หรือแวะมากินเป็นการส่วนตัวก็ได้ อย่างร้าน ครัวพะยอม

ร้านครัวพะยอมก็หาได้ไม่ยาก และต้องบอกเลยว่าถ้าเข้ามาแล้วรับประกันว่าต้องหาเจอแน่นอน เพราะแลนด์มาร์กเขานี่เด่นเป็นสง่ามาก ร้านอยู่ถนนโชตนา อยู่ซอยข้างธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เลี้ยวรถเข้ามา ขับมาอีกประมาณ 100 เมตร สังเกตด้านขวามือจะเห็นบ้านใหญ่ ๆ มีทุ่งนา นั่นแหละร้านครัวพะยอม สามารถจอดรถยนต์ได้หลายคัน

เมื่อจอดรถแล้วก็เดินเข้ามาในร้านได้ โดยสองข้างทางจะมองเห็นทุ่งนา ซึ่งตอนนี้เขากำลังปลูกข้าวกันอยู่ และจะมีต้นมะพร้าวสูงโดดเด่น 2 ต้นตั้งกระหง่านรอต้อนรับลูกค้าทุกท่าน พร้อมทั้งต้นพะยอม ที่อายุกว่า 100 ปีที่อยู่บริเวณร้านด้วย ร้านนี้จะมีอยู่ 2 โซนคือด้านล่าง ที่เป็นโซนสำหรับลูกค้าทั่วไปรับประทานอาหารแบบสบาย ๆ แอร์เย็น ๆ แต่สำหรับใครที่ต้องการดูวิวแบบมุมสูง สามารถขึ้นไปชั้นสองได้ หรือต้องการจัดเลี้ยงต่าง ๆ บริเวณด้านบนก็สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 100 ท่านด้วยเช่นกัน

ออเดิร์ฟเมือง (195 บาท) บางร้านเสิร์ฟแบบใส่ขันโตกมา แต่ที่นี่เสิร์ฟมาในปิ่นโต 3 ชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นสุดยอดเมนูอร่อยสไตล์เมืองเหนือไม่ว่าจะเป็น ไส้อั่ว, หมูยอ, ซี่โครงทอด, แหนม ถัดลงมาจะเป็นน้ำพริกหนุ่มซึ่งเป็นน้ำพริกที่ขาดไม่ได้ เรียกได้ว่าเป็นน้ำพริกคู่บุญของเชียงใหม่ และสุดท้ายเราก็ต้องมีแคบหมูแบบดั้งเดิมที่หนังพอง ๆ มีไขมันแทรก น้าอ้วนว่าแคบหมูแบบนี้แหละกินแล้วมันได้อรรถรสกว่าแคบหมูไร้มันตั้งเยอะ

แกงขนุน (80 บาท) อาจจะเรียกว่าแกงขนุนเป็นแกงมงคลของคนเชียงใหม่ เพราะทุกบ้านจะทำแกงนี้ในวันสำคัญ วันงานบุญโดยมีความเชื่อว่าจะช่วยเกื้อหนุนต่าง ๆ แกงขนุนใส่กระดูกหมู ชะอม ใบชะพลู และมะเขือเทศ ขนุนอ่อน ๆ เคี้ยวได้กำลังดี พร้อมกระดูกหมูที่ต้มจนเปื่อยเสร็จสรรพ

แกงผักเชียงดาปลาแห้ง (120 บาท) ผักประจำภาค ถือได้ว่าเป็นผักที่มีคุณประโยชน์เยอะมาก มีสรรพคุณช่วยในเรื่องของบำรุงร่างกายต่าง ๆ ผักเซียงดาที่เอาไปแกงให้สลดพอดี ๆ ใส่มะเขือเทศเพื่อเพิ่มความเปรี้ยว ปลาแห้งที่เอาไปเผาไฟจนหอมแล้วฉีกเป็นชิ้น ๆ ใส่ในน้ำแกง เมนูอร่อยๆ ที่เชื่อว่าคนเหนือหลายคนต้องชอบแน่นอน

สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว (120 บาท) เมนูฟิวชั่นที่เอาอาหารฝรั่งมาผสมผสานกับอาหารเหนือ เส้นสปาเก็ตตี้ที่ลวกจนสุกกำลังดี เอาไปผัดกับน้ำมันมะกอกปรุงรสตามแบบฝรั่ง สุดท้ายใส่ไส้อั่วที่หั่นเป็นแว่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน รสชาติผสมผสานกันกลายเป็นเมนูรสชาติเข้ากันดี

แอ๊บหมู (60 บาท) ต้องบอกว่าแอ๊บหมูที่นี่รสชาติไม่เลี่ยน เพราะบางทีจะเน้นใส่มันหมูค่อนข้างเยอะ เชฟจะเสิร์ฟมากันแบบพร้อมใบตอง เพื่อให้ความร้อนมันยังคงระอุอยู่ด้านใน และจะได้กลิ่นของใบตองเวลาที่เปิดอีกด้วย

ข้าวผัดปลาทู (125 บาท) ข้าวผัดรสชาติที่ค่อนข้างกลมกล่อม ถ้าสังเกตดี ๆ เวลาเคี้ยวจะรู้สึกว่ามีสมุนไพรต่าง ๆ แทรกเข้ามาด้วยไม่ว่าจะเป็นตะไคร้และใบมะกรูด รวมไปถึงเนื้อปลาทูที่ฉีกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ถูกผัดมาพร้อมกับข้าวผัด สำหรับใครที่ยังไม่สะใจในรสชาติ เชฟก็แถมพริกขี้หนูซอย ต้นหอมซอย หอมแดงซอย และปลาทูชิ้นใหญ่ ๆ ท็อปปิ้งมาให้ด้วย

ต้มส้มไก่ (120 บาท) ต้องบอกว่าครบเครื่องเรื่องสมุนไพรดีจริง ๆ อีกทั้งสำหรับใครที่ชอบอะไรแบบรสจัด ๆ ชามนี้แค่เห็นพริกแห้งที่ลอยหน้าแล้วก็การันตีได้เลยว่ามันแซ่บดีจริง ๆ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม มากันแบบครบรส ซดกันแบบสะใจสำหรับใครที่ชอบรสจัดเหมือนน้าอ้วน

ปลากะพงทอดน้ำปลา (390 บาท) ปลากะพงขนาดตัวพอดี เชฟจะผ่าหลังปลาแล้วแหวกออก เลาะก้างให้เสร็จสรรพ เพื่อจะได้กินกันได้อย่างสะดวก ทอดให้กรอบนอกนุ่มใน เนื้อแน่นจริง ๆ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำปลาหวานที่รสชาติหวานและเค็มผสมกันมาอย่างลงตัว และยำมะม่วงเครื่องเคียงอีกอย่างที่ต้องบอกว่าขาดไม่ได้จริง ๆ

น้ำพริกคุณยาย (120 บาท) เมนูที่ต้องบอกว่าเป็น Signature ของทางร้าน เมนูที่ห้ามพลาด ลักษณะจะคล้าย ๆ กับน้ำพริกหนุ่ม แต่จะมีความมันของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ป่นลงไปด้วย เลยทำให้น้ำพริกถ้วยนี้มีความมัน และเผ็ดอยู่ในตัวเอง

ยำพะยอม (90 บาท) อีกหนึ่ง Signature ที่อยู่ในหมวดของเมนูเรียกน้ำย่อย ลักษณะจะเป็นยำรสชาติเบา ๆ แต่จะหอมด้วยกลิ่นของมะพร้าวคั่วเป็นหลัก มีหอมแดงเจียว ดอกสโน ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปรุงรสชาติให้หวานอมเปรี้ยว ตักใส่ปากเคี้ยวอร่อย ๆ หอมกลิ่นมะพร้าวขึ้นจมูก เมนูเรียกน้ำย่อยอร่อย ๆ กินเพลิน ๆ ก่อนจานหลักจะมา

ข้าวเงี้ยว (60 บาท) เมนูอร่อย ๆ ที่เชื่อว่ามีแต่เมืองเหนือเท่านั้นที่มีอะไรแบบนี้ ข้าวสวยที่เอาไปคั้นกับเลือดแล้วเอาไปนึ่งให้สุก ข้าวก็จะซึมซับรสชาติของเลือด หอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมกับกระเทียมเจียว ผักเครื่องเคียง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น

มาดูในส่วนของของหวานกันบ้าง ของหวานแบบไทย ๆ ที่ใครเห็นแล้วจะต้องตาลุกวาวอย่าง ไอศกรีมครองแครงกะทิสด (55 บาท) ครองแครงขนมไทยโบราณ เหนียวหนึบ พร้อมด้วยข้าวโพดที่อยู่ด้านล่าง ไอศกรีมกะทิสดหอมมัน เย็นสดชื่นโรยงาขาวส่งกลิ่นหอม เมนูอร่อยเพิ่มความสดชื่นแบบนี้ท้าให้ลอง

ข้าวเหนียวสังขยาปลาป่น (60 บาท) หรือที่เรียกว่าข้าวมันสังขยาปลาป่นนั่นเอง ข้าวเหนียวมูนหอมมันกะทิ ท็อปปิ้งด้านบนด้วยปลาป่นและสังขยาอร่อย

ปิดท้ายความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มอย่าง น้ำมะม่วงปั่น (65 บาท) เย็นสดชื่น หวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นมะม่วงที่โชยออกมา หรือจะเป็นน้ำลำไย (40 บาท) ลำไยแห้งลูกโต ๆ ฉ่ำน้ำ พร้อมรสชาติที่ไม่หวานเกินไป ทำให้ดื่มได้เรื่อย ๆ

มะพร้าวสด (60 บาท) หรือสำหรับใครที่ชอบน้ำมะพร้าว ที่นี่ก็มีมะพร้าวสดเสิร์ฟทั้งลูก น้ำหอมหวาน และเนื้อมะพร้าวอ่อน ๆ กินอร่อยดี

เชื่อว่าถ้าใครเคยเห็น หรือผ่านร้านครัวพะยอมมาก่อน เชื่อเลยอาจจะต้องคิดว่าร้านนี้จะต้องหรูหรา ขายอาหารราคาแพง เพราะด้วยพื้นที่รอบข้างและตัวอาคารที่เห็นแล้วมันทำให้รู้สึกว่าอลังการ แต่ถ้าลองมาดูราคาที่น้าอ้วนเอามาแนะนำ เชื่อได้เลยว่ามันสมราคาและไม่ได้สูงจนเกินไป จนทำให้เอื้อมไม่ถึง ดังนั้นที่นี่จึงน่าจะเหมาะที่จะเป็นร้านที่จะพาแขกบ้านแขกเมืองมาเลี้ยงรับรอง หรือใครอยากกินอาหารเมืองเหนือ อยากเปลี่ยนบรรยากาศร้านเดิม ๆ ที่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้มาลองแวะดูสักครั้ง

ชื่อร้าน: ครัวพะยอม
ที่อยู่ : 222/26 ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300
พิกัด GPS : 18.821182, 98.981386
ติดต่อ : 062-6656266 , https://www.facebook.com/Payomkitchen
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 น. ถึง 22:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/427246HE-ครัวพะยอม

Share on Facebook

Tweet

Follow us